Monday, October 12, 2009

บทที่ 2 แห่งศึกชักเย่อเชือกยักษ์ ในงาน Naha Matsuri ตอนเที่ยวถนนโคคุไซ

หลังที่เราได้รู้จักคณะเดินทางแล้ว http://foh9.multiply.com/journal/item/38/38 ตอนนี้เราจะมาดูว่าเมื่อวานนี้คณะทัวร์ลูกผสมระหว่าง OIC และ ริวได ไปทำไรมาบ้าง

11 ตุลาคม 2552
วันนี้เป็นวันที่ตื่นสาย ฮ่าๆๆ และตื่นมาพร้อมกับข้อมูลพยากรณ์อากาศว่าฝนจะตก ทำให้จิตใจของผมก็พะว้าพะวงทันที เนื่องจากต้องพาพี่นิกร(Nikon)ไปออกศึก กลัวพี่นิกรไม่สบาย แล้วผมจะแย่ไปด้วย เวลา 9.20น. ผมกับพี่อุออกมาจาก Front B เมฆฝนตั้งเค้ามาแต่ไกล ท้องฟ้าถูกปกคลุมด้วยเมฆสีเทา แสงแดดยังมิอาจจะเบียดตัวเองสอดแทรกทะลุผ่านชั้นความหนาของเมฆมากระทบพื้นดินได้เลย ผมก็พลางคิดไปว่าเมฆทำไมช่างใจร้ายกับผมจัง ทำไมไม่ให้ความหวังกับผมที่จะได้ถ่ายภาพอย่างสบายใจบ้าง เวลา 9.35 น. รถบัสสาย 97 วิ่งมาแต่ไกล และตรงเวลานัดหมายของทางนักศีกษาไทยในม.ริวไดบอกมาเป๊ะ ผมไม่รอช้า สวมวิญญาณนักขึ้นรถเมล์แห่งกรุงสยาม โบกรถเมล์ทันใด ฮ่าๆ รถเมล์คันนี้บรรทุกผู้ร่วมเดินทางสู่สมรภูมิรบด้วย ซึ่งประกอบด้วย อาร์เธอร์ น้องหนิง พี่ไม้ และ น้องอุ้ง จากนั้นไม่นานนักรถเมล์ก็มาถึงถนนโคคุไซ ยังเม้าท์กันบนรถไม่หนำใจเลย ลงที่ป้ายมากิชิ (Makishi) จากนั้นเราก็แวะไปถ่ายรูปที่ศาลเจ้ามากิชิ ซึ่งตรงนั้นคณะที่จะร่วมในขบวนพาเหรด และงานชักเย่อนั้นต้องมาทำพิธี



หลังจากหยุดพักถ่ายรูปเล็กน้อยพอหอมปากหอมคอแล้ว คณะทัวร์ก็เริ่มออกเดินทางต่อ (จริงๆแล้ว เพราะหัวหน้าคณะทัวร์หิว เลยจะพาไปหาไรกินกัน) เหอๆ ระหว่างทางนั้นอาร์เธอร์ก็ได้แนะนำสินค้าต่างๆ ที่ถูกจำหน่ายในร้านค้าต่างๆ บนถนนสายนี้ ควรจะซื้ออะไรบ้าง อะไรน่าซื้อ เดินไปเรื่อยๆจนถึงหน้าตลาด Heiwa ผมกับพี่อุเรียกว่าตลาดสด ลักษณะเหมือนกับตลาดสดบ้านเราเลยอ่ะครับ จะเห็นอาซิ้ม อาม่า คนแก่ๆ เดินไปเดินมากันให้ควับ ขายของที่ระลึก เสื้อผ้า ถ้าเราไปตามตลาดต่างจังหวัดก็จะรู้สึกได้เช่นกันครับ คณะทัวร์แวะพักทานโชกิโซบะ อร่อยราคาย่อมเยาว์ที่ร้านอินากะ (แปลว่าบ้านนอก) โชกิโซบะเป็นโซบะที่ใส่กระดูกหมูตุ๋นที่รสชาติหอมหวานมาก กระดูกหมูที่เปื่อย เมื่อเอาเข้าปากราวกับว่ากระดูกหมูชิ้นนั้นละลายหายไปในปากเลย หยุดพักกินกันไม่นานเราก็ไปเดินต่อไปยัง Tsuboya ไกด์อาร์เธอร์เรียกว่า ชุมชนด่านเกวียน เหอๆ เป็นแหล่งรวมศิลปินต่างๆ ที่มาบรรจงรังสรรค์ผลงานศิลปะต่างๆในย่านนี้ พอออกมาจาก Tsuboya เราก็ได้พบกับคณะลูกทัวร์สองคนสุดท้าย คือพี่ปุ้มและพี่ตึก

       

ออกมาจากตลาด Heiwa ก็จะมาพบกับขบวนพาเหรดต่างๆ ซึ่งในขบวนนั้นจะประกอบไปด้วยหลายๆกลุ่ม หรือคณะ ที่จะเข้าร่วมพิธีในตอนบ่ายนี้ (และเราก็ได้พบกับพวกเขาบ้างแล้วในตอนทำพิธีที่ศาลเจ้าตอนเช้า) แต่ละคณะนั้นก็งัดการแสดงโชว์ของตนออกมา บ้างก็โชว์คาราเต้ เด็กบ้าง ผู้ใหญ่บ้าง หรือแม้แต่ฝรั่งเองก็ยังมี แต่ที่น่าสนใจคือการยกเสาไม้ไผ่สูงราวสิบเมตร (ผมไม่แน่ใจว่าเขาเรียกว่าอะไรนะครับ รอคุณอาร์เธอร์มาไขความกระจ่างแระกัน) ยกทีละคนสลับกันไป โดยมีข้อแม้ว่าห้ามให้ไม้ไผ่นั้นล้มเด็ดขาด เพราะถือว่าจะนำมาซึ่งความโชคร้าย ขณะที่ขบวนพาเหรดเดินอยู่นั้น คณะลูกทัวร์เราก็ถ่ายรูปกันอย่างเมามันส์ ส่วนฝนเองก็เริ่มตั้งเค้าว่าจะตก จากนั้นไม่นานฝนก็เริ่มลงเม็ด ผมเองไม่รอช้าคว้าถุงพลาสติกออกมาคลุมพี่นิกรอย่างทันควัน (ฮ่าๆ กลัวพี่นิกรป่วย นวัตกรรมชั้นยอดจากเมืองไทย) แล้วเราก็ไปหลบฝนกันที่ Starbucks สั่ง Creme Brulee ที่น้องหนิงแนะนำมากินอย่างสบายใจ เอิ๊กๆๆ

 ตอนต่อไปจะได้เข้าสู่สมรภูมิรบศึกชักเย่อเชือกยักษ์ใหญ่ที่สุดในโลก

ดูภาพเพิ่มเติมได้ที่
http://foh9.multiply.com/photos/album/95/
http://foh9.multiply.com/photos/album/96/

ปฐมบทแห่งศึกชักเย่อเชือกยักษ์ ในงาน Naha Matsuri ตอนแนะนำผู้ร่วมเดินทาง

วันนี้เป็นวันหยุด เลยไม่ต้องไปเรียน สบายยยยยย อิอิ เพราะจะได้พักผ่อนหลังจากเมื่อวานไปร่วมศึกชักกะเย่อเชือกยักษ์ของเมืองนาฮา ที่ถนนโคคุไซ (Kokusai Dori) สมาชิกผู้ร่วมเดินทางไปรบครั้งนี้ค่อนข้างเยอะ เพราะมีนักเรียนไทยที่เรียนที่ริวได (Ryudai) ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยใกล้ๆกับที่เรียนผมไปด้วย รวมทั้งสิ้น 8 ชีวิต ไล่เผารายตัวเลยแล้วกันนะครับ ฮ่าๆๆ

1. อาร์เธอร์ หนุ่มรูปร่างอวบนิดๆ (ไม่กล้าว่ามาก เด๋วเข้าตัว) สูงประมาณ 175 เซ็นติเมตร ไม่ประมาณน้ำหนัก ผมสั้น ใส่แว่นตา หน้าใจดีๆ เพราะอาร์เธอร์เป็นคนอารมณ์ดี ชอบยิ้มอยู่ตลอดเวลา คุยเก่ง แต่อย่าได้พลาดเชียวนะ รับรองโดนยิงมุขสวนได้ทุกมุข ฮ่าๆๆ วันนี้อาร์เธอร์มาในฐานะหัวหน้าคณะทัวร์ และไกด์คนสำคัญด้วย เพราะผมได้ความรู้มากมายกับการเดินที่ถนนโคคุไซ ทั้งๆที่ผมมาเกือบทุกอาทิตย์ แต่ไม่เคยรู้ว่าอะไรมากมายอยู่ในถนนโคคุไซ พูดง่ายๆว่า Discovery Kokusai กันเลยทีเดียว

2. หนิง น้องหนิงอายุห่างจากผมประมาณสามปี สูงประมาณ 170 เซ็นติเมตร ผิวคล้ำ ผมยาว ตาตี่ ยิ้มตลอดเวลาเช่นเดียวกับคุณอาร์เธอร์ พอกันบ่อยในโลกออนไลน์ เพราะเธอมักจะเก็บผัก และออนเอ็ม ฮ่าๆๆ น้องหนิงกับคุณอาร์เธอร์มักจะมีไรให้ขำเสมอๆ ยิ่งตอนถ่ายรูปนะ เวลาเจอที่ที่ต้องน้องหนิงต้องการมีรูปตัวเองนะ ก็จะเข้าไปใกล้ๆสิ่งนั้นแล้วหันมาเรียกคุณอาร์เธอร์ไปถ่ายให้ ทุกครั้งคุณอาร์เธอร์ก็จะบ่น แต่ก็ถ่ายให้ทุกครั้งเช่นกัน (เอ๊... ยังไงเนี่ย ถ่ายไปบ่นไป) และน้องหนิงดันทักว่าผมมีพุง เล่นเอาซะเสียความมั่นใจไม่กล้ากินเยอะเลย ฮ่าๆๆ

3. พี่ไม้ เพิ่งรู้จักกันครั้งแรกเลยยังไม่ค่อยมีไรจะเผา ลักษณะพี่ไม้ผมซอยค่อนข้างสั้น เฮ้วๆ พิจารณาดูแล้วน่าจะลุยพอสมควร เอิ๊กๆๆ  รู้จักวันแรก พี่แกก็เลี้ยงโซบะซะเลย ฮ่าๆๆ ขอบคุณนะครับ

4. น้องอุ้ง เพิ่งรู้จักกันครั้งแรกเหมือนกันและก็ค่อยหาเรื่องเผาวันหลัง น้องเพิ่งจะเคยมาโอกินาว่าครั้งแรก และเพิ่งมาถึงเมื่ออาทิตย์ก่อน น้องอุ้ง ผอมมากกก สงสัยว่าน้องแกเอาลำไส้กระเพาะไว้ตรงไหนเหรอ และตอนไปร่วมศึกชักกะเย่อ ก็กลัวน้องแกล้มถ้ามีคนเหยียบแล้วจะหักสองท่อนเอา เหอๆ ไม่รู้จะเผาไรแระ ฮ่าๆๆ

5. พี่ปุ้ม หนึ่งในสองผู้อาวุโส ที่ผมเคารพ พี่ปุ้มค่อนข้างอวบ ผมยาวสีดำตรงสลวย เจอกันเป็นครั้งที่สองแล้ว พี่ปุ้มเล่นกล้องด้วย ใช้แคนอน ฝีมือถือว่าเยี่ยมเลยหล่ะครับ ดูจากรูปผมหลายๆรูปแล้ว ฮ่าๆ และทราบมาว่าพี่ปุ้มนี้มีรองเท้าทุกแบบทุกสไตล์

6. พี่ตึก น่าจะเป็นพี่ใหญ่สุดในคณะลูกทัวร์ในวันนี้ พี่ตึกมาทำวิจัยด้านพะยูนกับสัตว์ทะเลที่โอกินาว่า พี่ตึกเป็นคนใจดี มักจะแนะนำน้องๆเสมอ เมื่อวานผมก้ได้มีโอกาสได้พูดคุยกับพี่ตึกเหมือนกัน อิอิ อ้อ... พี่ตึกมีฉายาว่า เจ้าแม่พะยูน นะครับ

ส่วนอีกสองชีวิตที่ร่วมเดินทางนี้ก็คือผมกับพี่อุจาก OIC นั่นเอง เอิ๊กๆๆ



ดูภาพเพิ่มเติมได้ที่
http://foh9.multiply.com/photos/album/95/
http://foh9.multiply.com/photos/album/96/

20091011 Kokusai Dori (Naha Matsuri) Part 2




The biggest Tug-of-War in the world.

20091011 Kokusai Dori (Naha Matsuri) Part 1