Tuesday, December 23, 2008

20081207 Pond and Pang Wedding




My cousin's wedding celemony in Leoi. These is only samples of the photos that I took. hehehe

Friday, November 07, 2008

20081030 - 31 ThaiCERT (NSTI) on the beach




hehe

These are photo of the anual meeting of ThaiCERT. We did a lot of activities and meeting.

20080719 The last day in Brisbane




Today is very good day to show you the photo that I took in Australia. That day is the last day that I lived in Brisbane. Wells, Jamie took me to Mt. Cootha, the zoo and the Gold Coast.

Mt. Cootha, we have been before at night. It's very beautiful to see around Brisbane. After that, Jamie took me to see the australian animals, such as kangkaroos, Koala bears ,etc. And then we had dinner at Hard rock cafe in Gold Coast. That 's all my trip.

Thank you very much for Jamie to show me around Brisbane and AusCERT for being host for me.

Thursday, September 11, 2008

Basketball Match

Start:     Sep 25, '08 6:00p
End:     Sep 25, '08 10:00p
Location:     Not specific yet
NSTDA VS Thai Airways

Face to Face English test

Start:     Sep 12, '08 1:00p
End:     Sep 12, '08 2:00p
Location:     Auditorium NSTDA

Experiences Sharing from RSA Conference 2008


จากที่ได้ไปงานสัมนาที่ SW park เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เรื่อง Experiences Sharing from RSA Conference 2008 งานนี้ผู้พูดหลักได้แก่ ดร.กิตติ โฆษะวิสุทธิ์ VP ของธนาคารกรุงเทพ และหลังเบรคเป็นเสวนา ซึ่งมีดร.กิตติ ดร.ปริญญา คุณเทอดศักดิ์ (ผอ.ด้านไอทีของการเคหะ) และมี chair ชื่อคุณพรศักดิ์

พูดถึงเรืองเนื้อหาส่วนของดร.กิตติพูดก่อนแล้วกัน อ.กิตติพูดถึงเนื้อหาส่วนใหญ่ของงานสัมนาที่จัดขึ้นในซานฟรานซิสโก ชื่อ RSA และมีหลายเซสชั่นและมีการจัดกิจกรรมอื่นๆด้วยเป็นต้นว่า Cryptographer Panel, Exposition ,Security smackdown รวมทั้งจัดงานนิทรรศการต่างๆ เกี่ยวกับเทคโนโลยีทาง security อีกด้วย ในงานสัมนาในครั้งนี้มีธีมของงานคือ อลัน ทัวริ่ง (Alan Turing)
เริ่มต้นของเนื้อหานั้นเน้นที่การป้องกันรักษาความปลอดภัยในปัจจุบันนั้นต้องป้องกันใน information เนื่องจากการโจมตีนั้นเริ่มเปลี่ยนเป้าหมายจากโจมตีที่ infrastructure แล้ว และข้อมูลส่วนใหญ่อยู่บนอุปกรณ์ไร้สาย Mobile
- Thinking Security เป็นเหมือนประเด็นหลักที่อ.ได้บรรยายถึง แต่ก็เป็นเรื่องที่พวกเรารู้กันอยู่แล้ว แต่ไม่แน่ใจว่าผู้ฟังคนอื่นจะเข้าใจหรือไม่ กล่าวคือ อ.ชี้ให้เห็นว่าจริงๆแล้ว Security มันไม่ใช่ Technology มันไม่ใช่พวกไฟร์วอลล์ IDS IPS ต่างๆ แต่หากเป็นเพียงส่วนนึงเท่านั้น แต่ที่สำคัญอยู่ที่ บุคคลากรและกระบวนการมากกว่า เพราะฉะนั้น security จะเกิดได้ก็ต้องเกิดจากความเชื่อมั่นใน Process และ People ไม่ใช่เชื่อมันใน Technology ถ้าหากเชื่อมั่นใน Technology จะทำให้เกิดช่องว่างทางความรู้หรือ Knowledge gap ดังนั้นการ Thinking Security คือการมุ่งเน้นคิดป้องกันหรือเตรียมตัวป้องกัน หรือทำให้เกิดความปลอดภัย เช่นการทำ Risk management เป็นต้น
- Security & Privacy สองคำนี้ในบางมุมก็มีความหมายไปในทิศทางเดียวกัน คือ  ถ้ามี privacy ก็จะมี Security ด้วย เช่นการรักษาข้อมูลส่วนตัวของเรา ก็จัดได้ว่าเป็น Security แต่ผมว่าลองมองกลับกัน ถ้าหากต้องการมี Security ก็อาจจะต้องเสียความเป็น privacy ไปด้วย เช่นในกรณีของ 911 การที่อเมริกาเก็บข้อมูลการสนทนาทางโทรศัพท์ของคนทั้งประเทศจัดได้ว่าเป็นการละเมิด privacy แต่ก็จัดได้ว่าเพื่อเป็นการใช้ตรวจสอบความปลอดภัย จำต้องทำดังกล่าว หรือการเก็บล็อกก็เช่นเดียวกัน และในเรื่องนี้เองจะไปโยงกับ Identity Management การบริหารจัดการการระบุตัวตน ซึ่งก็อาจจะใช้การระบุอยู่ 2 แบบ คือ Personal, Situation หรือ Role เป็นการระบุตัวตนโดยขึ้นอยู่กับว่า ณ เวลานั้นทำอะไร ใช้นามใครในการออกตัว เช่นถ้าเราไปขายของ ก็จะใช้นามของบริษัท โดยที่บางครั้งเป็นตัวแทน และไม่ได้บอกว่าตัวเองชื่ออะไร เป็นต้น นอกจากนี้การระบุตัวตนแบบนี้เป็นการเลือกใช้การระบุตัวตนตามสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ณ เวลานั้น
- IDS & IPS ก็แค่กล่าวถึงความแตกต่างระหว่างสองสิ่งนี้
- Ajax Technology เป็นการกล่าวถึงเว็บแอพพลิเคชั่นยุคต่อไปที่ต้องให้ความสนใจเกี่ยวกับ Security เป็นอาจมีแนวโน้มนั่นเอง

จากนั้นเป็นงานเสวนา ซึ่งเริ่มด้วย อ.ปริญญา แนะนำแนวโน้มเทคโนโลยีที่กล่าวถึงในปีก่อนและปีนี้เที่ยบกัน โดยอ.ปริญญานั้นเน้นโฆษณางานสัมนาของตัวเองที่จะจัดปลายปี CIDIC และแฟนพันธุ์แท้มากันตรึม ในปีนี้เทคโนโลยีที่น่าสนใจที่อ.ปริญญาได้กล่าวไว้ คือ
1.GRC = การรวมของ Governace Risk และ Compliance
2.การป้องกันเว็บแอพต่างๆ เช่นป้องกันที่โค้ด หรือ Web App firewall
3.SIEM
4.Google Like เป็นการนำเอาความสามารถของกูเกิลมาในค้นหาเอกสารภายในออฟฟิศ ซึ่งกูเกิลมาขาย box ที่เหมือนเซิร์ฟเวอร์
5.Vulner. Watching Service
6.University and Government Agency Involement
7.PKI
8.Patch + Vulner scanning + Desktop management
9.การทำ Data Privacy เช่นพวก DLP (Data Loss Protection), DRM (Digital Right Management) เป็นต้น การทำ Wireless IPS
10.Web scanner
นอกจากนี้ยังพูดเน้นให้เห็นถึงเป้าหมายทางธุรกิจกับไอทีมีความสัมพันธ์กันอย่างไร และ BS25999 ที่มาใหม่และเน้นที่ BCM (Business Continuity Management)

หมายเหตุ ในการไปสัมนาในครั้งนี้ ทำให้ผมค่อนข้างมั่นใจว่าคนไทยส่วนใหญ่ยังคิดว่า Security คือ Technology อยู่ เนื่องจากการอธิบายความสัมพันธ์ของอ.กิตติในตอนแรกนั้น มีเพียงส่วนเล็กๆที่เข้าใจ และคนส่วนใหญ่จะเงียบเหมือนเวลาอ.ที่มหาวิทยาลัยสอนแล้วเราเรียนไม่รู้เรื่อง และพวกเขาอาจจะผิดหวังเพราะเจอเนื้อหาที่ยากเช่นนี้ก็เป็นได้

Wednesday, July 30, 2008

20080717 Brisbane 2




Jamie and Eric took me to the mt. Coot-tha and Kangaroo cliff pt. at night. It's very beautiful. And we had hot chocolate and a big piece of cake as well. :)

Then I went to the South bank again on 18 July at day time.

The next album, I will show you about last album that has many pictures from zoo and the Gold-Coast.

20080714 Brisbane 1




My first trip to Australia was very nice. Jamie who works for AusCERT and my best friend took me visiting around Brisbane.

In this album, I visited UQ (University of Queenlands, which AusCERT is situate) and then I went to the South Bank in the evening.

Saturday, July 12, 2008

กลอนประจำวันที่ 11 กรกฎาคม 2551

เมื่อวานไปรับปริญญาแล้วต่อด้วยจิบเบียร์ที่สวนลุมไนท์บาซาร์ เหอๆๆๆ

ถึงฝั่งฝันวันนี้ที่คอยท่า
มุ่งอุตส่าห์พากเพียรเรียนหนังสือ
ได้ปริญญามาอยูู่ในกำมือ
อย่าหยุดยื้อความฝันพลันก้าวไป

ส่งให้อ.แล้วอ.ไม่ได้แก้ให้แต่อย่างไรอ.ก็ส่งกลอนมาให้

เรียนวิชาว่าไปไม่เหนื่อยหนัก แต่เรียนรักยากกว่าน่าหวั่นนไหว
กว่าจะรู้ผู้หญิงยิ่งข้องใจ
รักแบบใดไม่อยากคิดให้จิตตรม

Thursday, July 10, 2008

กลอนประจำวันที่ 10 กรกฎาคม 2551

วันนี้คิดกลอนไม่ออก โดนอ.แต่งกลอนมายั่วโมโห ฮ่าๆๆ เลยแต่งได้เลย

กลอนของอ.ผมนะ ที่ท่านส่งมายั่ว

น่าเศร้าใจกลอนไหนหาไม่พบ
เป็นจุดจบของกวีที่มุ่งหวัง จะแต่งกลอนทุกวันน่าขันจัง จุดหมายยังห่างไกลถ้าไม่เพียร 

สงสารชายวัยฉกรรจ์ฝันไม่ออก
หรือช้ำชอกถึงดวงจิตเลิกขีดเขียน หากโด๊ปยาก็กลัวว่าใจวิงเวียน กลับไปเรียนรักใหม่ดีไหมโน้ต

======================
ผมเลยล่อคืนบ้าง

ฤๅกวีที่หวังพังสิ้นแล้ว
ความแน่แน่วแค่ไหนไม่เหลือหลอ
อาจต้องรอสักวันจึงดีพอ
อย่างไรก็อย่าอู้สู้ต่อไป

บทนี้อ.แก้ 2 ท่อนสุดท้าย

อาจจะมีสักวันหนึ่งซึ่งดีพอ อย่าพึ่งท้องอมือเท้าก้าวต่อไป


บทที่ 2 ที่ผมแต่งอย่างเร็ว

อาจไม่รู้ขอเพียงแต่แค่ใจสู้
ตั้งใจดูเรียนรู้เร่งขีดเขียน
อ่านหนังสือสร้างสมองอย่างหมั่นเพียร
เพื่อจุดเทียนในหัวตัวเราเอย

แต่อ.แก้เป็น

แม้ไม่รู้ขอเพียงแต่แค่ใจสู้ ศิษย์มีครูกูไม่เกรงเร่งอ่านเขียน เปิดตำราลับสมองตรองพากเพียร แล้วจุดเทียนส่องใจไม่ยอมกลัว

สรุปผลการแต่งกลอนในวันนี้ ผมยอมแพ้แต่โดยดี พรุ่งนี้เอาใหม่ เหอๆๆ

Wednesday, July 09, 2008

การแข่งขันความจำชิงแชมป์ประเทศไทย

หลายคนคงได้อ่านบันทึกเหตุการณ์ของผม คงจะสงสัยว่า Thailand Open Memory Championships นี่คืออะไร

ก่อนหน้านี้ผมเป็นคนที่มีความจำสั้นมาก ขนาดไปทานข้าวเอากระเป๋าไปด้วย ยังต้องสะพายไว้เลย เพราะลืมเป็นประจำ แต่การพบกับอ.บุญเกิด ธรรมวาสี ผู้แต่งหนังสือเรื่อง วิธีจำประทับใจ ผมก็ได้ยึดให้ท่านได้เป็นโค้ชเลย ผมต้องฝึกฝนพอสมควร และเปลี่ยนกระบวนการคิด กระบวนการจำ จนพร้อมที่จะเข้าแข่งขันในครั้งนี้ อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าตอนนี้ผมยังไม่เก่งมากนัก แต่ผมก็พยายามปูพื้นฐานกระบวนการจำของผมมาระยะนึงแล้ว และพร้อมจะเดินหน้าต่อไป เพื่อเอาแชมป์มาให้ได้

Thailand Open Memory Championships หรือ TOMC เป็นการแข่งขันความจำชิงแชมป์ประเทศไทย เป็นกีฬาทางด้านสมองสักหน่อย ซึ่งปีนี้จัดเป็นปีแรก ในวันที่ 4-5 กรกฎาคม 2551 ที่ผ่านมา ณ ม.หอการค้าไทย โดยใช้กติกาเช่นเดียวกับ World Memory Championships หรือการแข่งขันความจำชิงแชมป์โลก กติการค่อนข้างหินพอดูเลยครับ การแข่งขันครั้งนี้แบ่งออกเป็นสองรุ่น คือรุ่นเด็ก อายุต่ำกว่า 18 ปี ใช้โจทย์เพียงแค่ 6 หมวดในการแข่งขัน และรุ่นทั่วไป อายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไป (ไม่ได้เกี่ยวกับดาวน์โหลดหนังโป๊นะครับ) ใช้ 10 หมวดการแข่งขันดังนี้

1. คำเร็วแบบสุ่ม ให้คำมาซึ่งเป็นทั้งนามธรรมและรูปธรรม ผู้เข้าแข่งจะต้องตอบเรียงตามลำดับที่โจทย์กำหนด
2. เลขฐานสอง ให้จำเลขฐานสอง 0 1 แถวละ 30 ตัว จำนวน 25 แถว
3. จำชื่อและหน้า เหมือนเกมส์ทศกัณฑ์ จำหน้าและชื่อคนต่างๆ
4. จำเลข 15นาที ให้เวลา 15 นาทีในการจำเลขแถวละ 40 ตัว 25 แถวเช่นกัน
5. จำปี โจทย์กำหนดปีพ.ศ. และเหตุการณ์แปลกๆให้ แล้วให้ตอบ
6. จำไพ่เร็ว ให้เวลา 5 นาทีจำไพ่ เรียงลำดับว่าได้กี่ใบ
7. จำภาพนามธรรม ในเวลา 15 นาที ให้จำรูปภาพที่ดูไม่ค่อยออกว่าเป็นรูปอะไร และตอบว่าภาพในเป็นภาพที่ 1
8. จำเลขเร็ว เวลา 5 นาที จำเลขได้เท่าไหร่
9. อ่านออกเสียงตัวเลข อ่านตัวเลขเป็นภาษาอังกฤษ เว้นระยะห่าง 1 เลข ต่อ 1 วินาที จนครบ 100 และ 200 ตัว และตอบ
10. จำไพ่ 10 นาที เวลา 10 นาที จำไพ่ได้เท่าไหร่

กติกาและรายละเอียดเพิ่มเติมไปดูได้ที่เว็บ http://www.jumkeng.in.th

ผลการแข่งขันออกมาแล้ว คือผมได้รองแชมป์ แพ้กันไม่กี่แต้ม แต่น่าเสียดาย ผมรู้แล้วครับ ว่าผมยังขาดอะไรบ้าง ผมยังคงต้องฝึกซ้อมต่อไป แผนการฝึกซ้อมของผมที่ได้วางแผนไว้มีดังนี้

1. แต่งกลอนทุกวัน อย่างน้อยวันละบทถึง 2 บท
2. ฝึกใช้ระบบหัวหมุดให้คล่อง และเพิ่มเขี้ยวเล็บในการฝึกระบบการเดินทางด้วย
3. จำหมายเลขโทรศัพท์ที่อยู่ในเครื่องผมให้ครบ และสามารถดึงกลับให้คล่องขึ้น
4. สำคัญมาก ในการฝึกสมาธิ

เท่านี้ก่อน หลังจากฝึกจนชินแล้วค่อยเพิ่มความยากต่อไป

หมายเหตุ ดูภาพบรรยากาศในการแข่งขันได้ที่ http://www.flickr.com/photos/thongchai_rojkangsadan

เริ่มต้นด้วยของวันนี้เลยครับ กลอนยิ้มๆ
วันนี้ตั้งใจแต่งกลอนที่บอกความหมายของการยิ้มแต่ละแบบครับ

พูดถึงยิ้มมีมากมายอยู่หลายหลาก
ยิ้มเม้มปากยั่วยวนชวนหลงใหล
ยิ้มกว้างๆเขาบอกชอบเปิดใจ
มองโลกใสคือชอบยิ้มหยีตา
แปรปรวนบ่อยไม่เต็มใจใช้มุมปาก
เข้าใจยากยิ้มเม้มปากเป็นนิสัย
ยิ้มเยือกเย็นเด่นดีมีน้ำใจ
ยิ้มอย่างไรยิ้มไว้เถิดเกิดผลดี

Wednesday, July 02, 2008

เขากับขา

เมื่อหลายปีก่อนผมมีโอกาสได้ไปวันสวนโมกข์ จังหวัดสุราษธานี ผมชอบวัดแห่งนี้มาก โดยเฉพาะมีหอที่รวมภาพเขียนเกี่ยวกับธรรมะบนฝาผนัง ผมไม่แน่ใจว่าชื่อหออะไร แต่ผมจะขอเรียกว่าหอดวงตาแห่งธรรมแล้วกันนะครับ เอิ๊กๆ ตอนที่ผมไปนั้น มีพระสงฆ์รูปหนึ่ง ท่านอธิบายภาพต่างๆให้ฟัง บ้างภาพก็ฟังเข้าใจง่าย แต่บางภาพก็ยากจะทำให้สมองอันน้อยนิดของผมเข้าใจได้ เหอๆ แต่ที่ผมประทับใจเรื่องนึง คือเรื่อง เขาและขา

เรื่องมีอยู่ว่า ....

ลูกกวางตัวหนึ่งอาศัยอยู่ในป่าลึกแห่งหนึ่ง ต่อมาไม่นานกวางตัวนี้ได้เติบใหญ่ และมีเขาที่สวยงามงอกจากศรีษะของมัน มันภูมิใจ รักและหวงแหนเขาของมันมาก อยู่มาวันหนึ่งนายพรานผู้หนึ่งออกล่าสัตว์ตามปกติ ได้ผ่านมาพบกับกวางตัวนี้เข้า นายพรานจึงต้องการที่จะล่ากวางตัวนี้ จึงได้วางกับดักไว้ตามพื้นของป่า จากนั้นจึงออกล่ากวางดังกล่าว เจ้ากวางน้อยรู้ซึ้งถึงพยันต์อันตรายที่กำลังคืบคลานเข้ามาอย่างช้า ทันใดนั้นเองเสียงปืนของนายพรานดังขึ้น "ปัง" แต่ทว่ากระสุนนั้นเกือบจบชีวิตกวางได้ อย่างไรก็ตามมันก็ทำให้รู้ว่าเจ้ากวางจะอยู่เฉยไม่ได้ ต้องวิ่งเพื่อเอาชีวิตรอด มันวิ่งหนีนายพรานอย่างไม่คิดชีวิต อย่างไม่ลดละ แต่ทว่าเจ้ากวางวิ่งหนีมาเจอทางแยกจนได้ ทางที่หนึ่งเป็นทางที่มีเถาวัลย์ กิ่งไม้น้อยใหญ่ยื่นออกมา ซึ่งถ้ามันวิ่งไปทางนี้เขาของมันที่สวยงามก็จะต้องเสียหายอย่างแน่นอน แต่อีกทางเป็นทางที่มันเองรู้ดีว่านายพรานได้วางกับดักไว้หมดแล้ว อีกครั้นถ้าหากวิ่งกลับหลัง ก็คงจะถูกนายพรานยิงเสียแน่แท้

กวางตัวนี้จะเลือกทางไหนดี และถ้าเราเป็นกวางเราจะเลือกทางไหนดี

กวางตัวนี้เลือกที่จะไปทางที่มีเถาวัลย์ และกิ่งไม้มากมายโดยไม่สนใจเขาของมัน แน่นอนครับ มันเป็นทางเดียวที่จำให้มันอยู่รอดได้ต่อไป

จากนิทานเรื่องนี้ พระท่านต้องการจะสื่อว่า กวางทุกตัวเกิดมามีขา ขามีประโยชน์ต่อเรามาก ติดตัวเรามาตั้งแต่กำเนิด แต่เขาสิ เพิ่งมาอยู่กับเราเมื่อเราโตแล้ว ถ้าหากขาดขาไป เราก็เดินไม่ได้ เราก็จะโตจนมีเขาไม่ได้ ซึ่งก็เปรียบเหมือนบิดามารดา ญาติพี่น้องต่างๆ ถ้าไม่มีเขาแล้วเราก็อาจจะไม่โตมาเป็นผู้ใหญ่ที่ดีเหมือนในวันนี้ แต่เขาหน่ะเปรียบเหมือนแฟน ที่แต่ก่อนเราไม่มีเขาก็ยังอยู่ได้ แต่พอวันนึงที่ต้องเสียเขาไป ทำไมเราจะมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้หล่ะ ถ้าจะให้เลือกเสียเขาหรือขา เราคิดว่าควรจะเลือกเสียอะไรดีครับ

Monday, June 30, 2008

และแล้วก็เกิดเรื่องขึ้นอีกจนได้ เฮ้อ.....

หลังจากที่อะไรต่อมิอะไรเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการทำเปเปอร์สำหรับไปบรรยายที่ออสเตรเลีย ตอนนี้ก็รอหัวหน้าตรวจอยู่ หรือจะเป็นการเตรียมพร้อมก่อนแข่งขันความจำชิงแชมป์ประเทศไทย หรือจะเป็นการทำ Incident Drill รวมทั้งการซ้อมรับปริญญาของผม ล้วนก็ผ่านไปได้ด้วยดีตลอดมา จนกระทั่งเมื่อสักยี่สิบนาทีก่อนหน้านี้ .......

เสียงโทรศัพท์ของผมได้ดังขึ้น พี่โอ๊ตพี่ชายของผมโทรมา
"มึงรู้เรื่องแล้วหรือยัง"
ผมก็ทำหน้ามึนงงหลังจากการซ้อมจำไพ่ทั้งสำรับ แล้วตอบกลับไปว่า
"เรื่องไรเหรอ ไม่รู้เรื่องไรเลย"
"ฟังแล้วใจเย็นๆ นะ ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้ว" พี่ชายผมบอก
ยิ่งได้ยินอย่างนี้ยิ่งไปกันใหญ่เลย "สรุปเลยว่าเกิดไรขึ้น" ผมตอบกลับด้วยความสงสัยประกอบกับโมโหที่อยากจะรู้เรื่องเต็มที่
"ป๊า เป็นอาการเดิม ก้อนเลือดสะดุดในสมอง ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้ว" จากนั้นผมก็คุยต่ออีกสักหน่อย เพื่อถามว่าเกิดได้ยังไง เกิดตอนไหน จากนั้นผมก็โทรกลับไปที่บ้าน สรุปว่าตอนนี้ป๊าอยู่ที่โรงพยาบาล ยังไม่ได้สติ ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ ผมจึงโทรเช็คกับพี่สาว พี่สาวบอกให้ผมต้องกลับขอนแก่นพรุ่งนี้ เฮ้อ... ตอนนี้สมองผมสับสนไปหมดแล้วว่าควรจะทำไรก่อนดี ระหว่างการแข่งขันที่ครั้งนี้ผมกระหายที่จะเป็นแชมป์ให้ได้ สไลด์สำหรับบรรยายที่ออสเตรเลีย กับการที่ต้องกลับไปดูป๊าที่บ้าน เฮ้อ... อย่างไรก็ตามตอนนี้ผมก็ได้ข้อสรุปแล้วครับ ว่าผมต้องกลับขอนแก่นพรุ่งนี้เช้า แล้วจะเอาโน้ตบุคไปทำสไลด์ด้วย ประกอบกับฝึกความจำ แล้วจะกลับมาในวันที่ 4 เพื่อเข้าแข่งขันให้ได้ มันคงเป็นทางออกทางเดียวที่ดีที่สุดในตอนนี้ที่ผมคิดออก โดยผมพิจารณาดูแล้วว่ามันเหมาะสมที่สุด เพราะป๊ารู้เรื่องที่ผมจะไปแข่งนี้ตลอด ถ้าเขารู้ว่าเขาเป็นต้นเหตุที่ทำให้ผมไม่ได้ไปแข่ง ผมว่าเขาอาจจะเสียใจมากกว่าเดิมก็ได้ เพราะเขาเคยบอกว่าเขาไม่อยากถ่วงลูกๆ เขาอยากเห็นผมเติบโต มีหน้าที่การงานที่ดี ดังนั้นการแข่งครั้งนี้ผมจำเป็นจะต้องเป็นแชมป์ให้ได้ เพื่อเอาแชมป์มาฝากป๊าให้ได้

เอาฟะ โค้งสุดท้ายแล้วอีกสามวันก็จะรู้ผลแล้ว จะฝึกแบบบ้าดีเดือดให้ดู

Thursday, June 19, 2008

Speak to ITU Forum in Brisbane, Australia

Start:     Jul 17, '08 10:30a
End:     Jul 17, '08 11:00a
Location:     Brisbane, Australia
Speak about ThaiCERT and Incident Response report 2007

Visit AusCERT

Start:     Jul 14, '08 09:00a
End:     Jul 14, '08 12:00p
Location:     เมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย
ไปเยี่ยมเยียนเพื่อนเก่า ร่วมทั้งหาความร่วมมือ

บินไปบริสเบน ออสเตรเลีย

Start:     Jul 12, '08 3:00p
End:     Jul 20, '08 06:00a
Location:     เมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย
เดินทางไปสุวรรณภูมิ ก่อนที่เครื่องจะออกตอนหกโมงเย็น จากนั้นก็อยู่ที่นั่น 1 อาทิตย์

นัดเลี้ยงฉลองรับปริญญากับครอบครัว

Start:     Jul 12, '08 12:00p
End:     Jul 19, '08 3:00p
Location:     ยังไม่กำหนด
นัดญาติๆมาทานข้าวร่วมกัน

เตรียมตัวครั้งสุดท้ายก่อนแข่ง

Start:     Jun 29, '08 09:00a
End:     Jun 29, '08 5:00p
Location:     ม.หอการค้า
นัดซ้อมใหญ่ เพื่อการแข่งความจำชิงแชมป์ประเทศไทย

ทดสอบความพร้อมก่อนแข่งความจำชิงแชมป์ประเทศไทย

Start:     Jun 22, '08 09:00a
End:     Jun 22, '08 4:00p
Location:     ยังไม่กำหนด
โค้ชนัดให้ไปทดสอบความพร้อม

ประชุมศิษย์เก่า CoE KKU

Start:     Jun 20, '08 5:00p
End:     Jun 21, '08 12:00p
Location:     เขาใหญ่
นัดสังสรรค์ ประชุม พบปะ อาจารย์ รุ่นพี่ รุ่นน้อง

Monday, June 16, 2008

Thailand Open Memory Championships

Start:     Jul 4, '08 09:00a
End:     Jul 5, '08 5:00p
Location:     ม.หอการค้า
ไปเข้าแข่งขันความจำชิงแชมป์ประเทศไทย ยากจัง แต่อยากลองดู ไม่รู้จะทำได้ดีแค่ไหน แต่ก็จะสู้เพื่อตำแหน่งแชมป์ของประเทศไทย เอาใจผมด้วยนะครับพี่น้อง

NSTDA VS AIS Basketball match

Start:     Jun 24, '08 8:00p
End:     Jun 24, '08 11:00p
Location:     สนามบาสกรมทหารสื่อสาร บางซื่อ

รับปริญญาจริง

Start:     Jul 11, '08 1:00p
End:     Jul 11, '08 4:00p
Location:     จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เชิญมาถ่ายรูปร่วมกันนะครับ ตอนบ่าย

ถ่ายรูปหมู่รับปริญญา

Start:     Jun 28, '08 2:00p
End:     Jun 28, '08 6:00p
Location:     ประตูฝั่งสระน้ำ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ใครสนใจไปถ่ายรูปร่วมกันหน่อยนะครับ เวลา 14.00 น. ที่ประตูฝั่งสระน้ำ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

Tuesday, June 10, 2008

ในที่สุด สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น

เมื่อคืนเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันกับผม เกือบแย่เหมือนกันแต่สุดท้ายยังรอดมาได้ เรื่องราวมีอยู่ว่า เมื่อคืนตอนประมาณเที่ยงคืนได้ อาการของโรคหายใจเกิน หรือผมจะเรียกมันว่าโรคไฮเปอร์ (Hyperventilation Syndrome) ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเป็นค่อนข้างบ่อย แต่พอโตขึ้นเริ่มคุมอารมณ์ตัวเองได้มั๊ง ทำให้ไม่ค่อยเกิดอาการ ผมมักจะเป็นบ่อยครั้งที่เกิดความเครียดสุดๆ สะสมเป็นเวลานาน และไม่ได้ระบายออกมา ครั้งนี้เป็นครั้งที่สามหรือสี่ในรอบหกปีกว่า และเป็นครั้งแรกในรอบสามปี

โรคหายใจเกิน หรือ Hyperventilation Syndrome เป็นสภาวะที่ร่างกายขาดคาร์บอนไดออกไซด์ เนื่องมาจากจังหวะการหายที่เปลี่ยนไปอันเนื่องมาจากความเครียด ความกดดัน หรือตกใจสุดขีด ทำให้ร่างกายเร่งจังหวะหายใจและควบคุมไม่ได้ในระยะเวลานึง ซึ่งก็นานพอจะทำให้คาร์บอนไดออกไซด์อยู่ในร่างกายและสมองไม่เพียงพอ จนทำให้มือ เท้าและใบหน้าเกิดอาการชา ถ้าหากยังควบคุมจังหวะหายใจตัวเองไม่ได้ต่อไปอีก อาจจะทำให้ถึงขึ้นเป็นตะคริวได้เหมือนกัน เนื่องจากก่อนหน้านี้ผมเป็นบ่อยๆ จึงศึกษาวิธีการรักษาอาการ นั่นคือวิธีการที่จะต้องรักษาก่อนอื่นเลยคือ หาถุงพลาสติกมาครอบที่จมูกและปากของผู้ป่วย เพราะว่าร่างกายขาดคาร์บอนไดออกไซด์ และในขณะนั้นคาร์บอนไดออกไซด์มีมากในลมหายใจออก ดังนั้นจึงจำเป็นต้องให้สูดลมหายใจที่หายใจออกมากลับเข้าไปในร่างกายใหม่ ในช่วงที่ครอบนั้นจะต้องเปิดถุงให้ออกซิเจนเข้าไปบ้าง ไม่งั้นจะตายเพราะขาดออกซิเจน เหอๆ

ส่วนวิธีการป้องกัน คือห้ามเครียด (ฮ่าๆๆ ใครมันจะไปทำได้ฟระ) ถ้าหากรู้ว่าจังหวะการหายใจผิดปกติไป จึงต้องกลั้นหายใจชั่วขณะ หรือหายใจให้ช้าลง (พูดง่ายเน๊าะ ถ้าตอนนั้นมันคุมไม่อยู่เฟ้ย) รักษาสภาวะจิตใจให้เป็นปกติ (ก็ปกตินะ ยังไม่ได้บ้า) พอแระขี้เกียจพิมพ์แล้ว ไปฝึกนั่งสมาธิ ฝึกการพัฒนาความจำดีกว่า

อยากรู้เพิ่มก็อ่านเอาแล้วกัน กดฉันที

Saturday, June 07, 2008

ความเครียด

ทุกคนก็คงมีช่วงที่ตึงเครียดบ้าง ผมเองก็คนนึงที่ต้องมีความเครียด แต่ความเครียดนั้นเราจะจัดการมันอย่างไร นี่ต่างหากถึงเป็นหนทางในการแก้ไขปัญหาที่แท้จริง

ในช่วงนี้เหมือนมีมรสุมมันพัดกระหน่ำมากมาย จนตอนนี้แทบจะเอาตัวไม่รอดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานที่มากมายก่ายกอง ไม่รู้ว่ามาจากไหน ทำไมถึงเยอะแยะเหลือเกิน เรื่องคนในครอบครัวตอนนี้แต่ละคนก็วิกฤตเหมือนกัน รวมทั้งมีเรื่องเกิดกับคนที่รักมากที่สุดในชีวิต ก็รู้นะว่าพยายามบังคับเขาแล้ว แต่เขาก็คงทำไม่ได้หรอก แต่ผมก็จะพยายามทำให้เขาอยู่กับผมให้นานที่สุด ไม่ว่าจะวิธีใดก็ตาม อยากจะไปบอกเขา ขอให้เขาเชื่อผมอีกครั้ง ผมเองก็อยากจะบอกเขานะ ว่าผมรักและห่วงเขามากแค่ไหน ถ้าเขาเชื่อผมแล้วสิ่งที่ตามมาคือผมต้องใช้เงินจำนวนหนึ่ง ซึ่งถ้าเป็นคนอื่นอาจจะไม่มากมายอะไร แต่สำหรับผมแล้วมันถือเป็นเงินจำนวนค่อนข้างเยอะที่ต้องจ่ายทุกเดือน ไหนอีกสามเดือนก็จะต้องเริ่มผ่อนคอนโดอีก ไหนจะต้องเก็บเงินค่าเรียนและสอบโทเฟลอีก ไหนจะต้องใช้กินอีก เกิดมาตัวใหญ่ทำไมฟะเนี่ย กินเยอะ เปลือง ตอนนี้สับสนไปหมดเหมือนกัน เรื่องให้คิดหน่ะเข้ามาได้นะ แต่ขอให้มาทีละเรื่องได้ไหม ไม่ใช่เล่นเข้ามาเป็นซีรี่ย์แบบนี้ ตอนนี้ลำพังแค่งานอย่างเดียวก็เจอปัญหารอบข้างรุมเร้า ต้องติดต่อกับคนอีกมากมาย ต้องแก้ปัญหาต่างๆ แบบนี้ใช่ไหมที่เขาว่าสถานการณ์สร้างวีรบุรุษ

เฮ้อ... ตอนนี้อาจจำเป็นต้องใช้เงินเพิ่มอีกเดือนละจำนวนหนึ่ง เราจะทำไงดีเนี่ย แวะมาบ่นผ่านบล็อก เพราะตอนนี้สับสนจริงๆ ไม่รู้จะไปคุยกับใครได้ อยากให้มีคนมาอยู่ใกล้ๆ มาฟังผมบ่นหน่อย เครียดจัง ไม่รู้ว่าจะทำอะไรก่อนดี ตอนนี้รู้เพียงอย่างเดียว คือจะใช้สมองของเราทำเงินจากทางไหนได้บ้าง มีหลายวิธีที่ยังไม่เคยลอง และอาจจะต้องทำเสียที ไม่ว่าจะเป็นการเขียนหนังสือขาย การจัดอบรมที่ถนัด หรืออาจจะเข้าแข่งขันชิงแชมป์ความจำระดับประเทศ เผื่อฟลุ๊ก เบื่อความรู้สึกตัวเองตอนนี้จัง เบื่อที่ต้องมาคิดมากอยู่เรื่อย คืนนี้กลับไปหายาคลายกล้ามเนื้อกินสักหน่อยดีกว่า คงจะได้หลับบ้าง คืนที่เท่าไหร่แล้วเนี่ย ที่นอนวันสามสี่ชั่วโมง เฮ้อ.... (อีกรอบ)

ช่วงนี้เหมือนมีใครกำลังจะพิสูจน์ความแข่งแกร่งของผมอยู่เลย ผมกล้าท้านะ ผมผ่านไปได้แน่ แต่อาจจะเขว่บ้าง และจะผ่านได้แน่นอนถ้าเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับคนที่ผมรักมากคนนั้น เหนื่อยใจ เหนื่อยจนท้อ เหนื่อยจนไม่รู้จะทำไรต่อไป แต่อย่างไรก็ตามชีวิตยังคงต้องดำเนินต่อไป เพราะฉะนั้นทำได้อย่างเดียวคือลุย ก่อนหน้านี้ผมได้รับฉายาจากที่ทำงานถึงเรื่องความอึดในการทำงาน ผมไม่ใช่คนที่เก่งอะไร แต่ผมมีความอึดมากกว่าคนอื่นแน่นอน

วันนี้ขอบคุณ พี่ทศ พี่เขม พี่เอ พี่เล็ก ที่ชวนผมไปทานข้าวกัน
และขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน

Tuesday, May 13, 2008

20080510-11 Ratchaburi Trip




Last weekend I was speaker about computer security awareness in Ratchaburi. After the seminar, I visited arround there. I am very impress with Christian church although I am a Buddist. I visited 2 famous churches, which are over 100 years. Then I had lunch at the river side restaurant. In the afternoon we visited King Rama II park and Ampawa market, where is very famous floating market. It was crowd, so I can't take any photo there.

On Sunday, after our breakfast I visited Siam Culture Park. It is the park and show many wax models about famous Thai people. It is very beautiful and exciting for every visitors. After that we had lunch and went back to Bangkok.

Special thanks for:
P' Keng and P' Pok for arranging this trip.
Father Paisal for being guide.
Dr. Kitt ,P' Aor and Aom for traveling with me.

Wednesday, April 09, 2008

Red Shark VS ABC and Red Shark in final round

Start:     Apr 10, '08 6:00p
End:     Apr 10, '08 8:00p
Location:     Thammasat University
Quarter final round, Red Shark will play against with ABC.

If we win, we will play in final round after that.

Champion must not lose. Red Shark, the champion.

Saturday, March 29, 2008

Red Shark VS MEMS Ci(ty)

Start:     Apr 8, '08 6:00p
End:     Apr 8, '08 6:30p
Location:     สนามบาส โรงเรียนประถม ธรรมศาสตร์
นัดที่สาม นัดสุดท้ายของรอบแรก
คาดว่าน่าจะหมูสุดของสายนี้ แต่จะประมาทไม่ได้

Red Shark ... WIN!!!!

Red Shark VS Doraemon

Start:     Apr 2, '08 6:00p
End:     Apr 2, '08 6:30p
Location:     สนามบาส โรงเรียนประถม ธรรมศาสตร์
สตรีทบาสนัดที่สอง

Red Shark ..... FIGHT!!!!!!

Red Shark VS คนโสด

Start:     Mar 31, '08 6:00p
End:     Mar 31, '08 6:30p
Location:     สนามบาส โรงเรียนประถม ธรรมศาสตร์
คู่เปิดสนามสตรีทบาสของสวทช.

ไม่มีคำว่าแพ้สำหรับแชมป์

ความเศร้า กับการแข่ง Street Bas ที่รออยู่เบื้องหน้า

วันนี้เกิดบ้าอะไรไม่รู้ ดันไปเปิดเว็บฮิ5 (Hi5) ขึ้นมา ไปดูของคนๆนึง พอไปดูก้เห็นรูปเขากับแฟนเขา ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ทั้งๆที่เรื่องมันก็จบไปสองปีแล้ว แต่ทำไมยังไม่สามารถลืมเขาได้ขาดเสียที ทำไมต้องปล่อยให้เขาแวะเข้ามาทำร้ายความคิดดีๆ ความคิดที่สวยงามต่อการมองโลกของผมด้วยก็ไม่รู้ จะว่าเหงาไหม ผมก็ไม่ได้เหงาเลย อยู่กับบาสเก็ตบอล กับไวรัสที่ชื่นชอบ จะถามว่างานเยอะไปไหม ก็อาจมีส่วน แต่แล้วที่สุดสาเหตุมันก็คือผมเองก็ยังไม่สามารถจัดการกับความรู้สึกแย่ๆของผมได้เสียที ความรู้สึกที่อยากรับรู้ตลอดว่าเขาเป็นอย่างไร ทั้งๆที่รู้ว่าถึงจะคอยห่วงเขาสักเท่าไหร่ เขาก็ไม่เคยมองเห็นความรู้สึกนี้ของเราหรอก แต่ช่างเหอะ สุดท้ายมันก็คือตัวเองนั่นแหล่ะ จะโทษใครก้ไม่ได้ ก็ต้องรับผิดชอบความเศร้าของเราต่อไปคนเดียว (เจื๋อกโง่เองนี่หว่า ฮ่าๆๆ) แต่ช่างมันเหอะ มันเป็นอดีต ที่ความจริงแล้ว ผมอยากจะเก็บเขาไว้ในใจเองนี่แหล่ะครับ ปกติแล้วผมเป็นคนขี้ลืม ขนาดกระเป๋าเป้ยังต้องสะพายไว้ตลอดเวลากินข้าว เพราะลืมประจำ แต่อย่างน้อยผมก็ยังจำคนๆนี้ได้ ฮ่าๆๆ ไม่รู้ว่าจะจำไปทำไมเหมือนกัน
 
เอาหล่ะ เรื่องในอดีตก็จบไปแระ อาทิตย์หน้าเป็นศึกสตรีทบาสของสวทช.รออยู่ ผมถูกจัดให้เป็นทีมวาง ดังนั้นมีความกดดันเล็กๆ เนื่องจากสายผมนั้นค่อนข้างหินเอาการ ทั้งหมดมี 8 ทีม แบ่งเป็นสองสาย แข่งแบบพบกันหมด แล้วเอา 2 อันดับของแต่ละสายไปไขว้กัน แล้วค่อยเข้าสู่รอบชิง ทีมผมชื่อ Red Shark ประกอบด้วยผม เล่นตำแหน่งเซ็นเตอร์, พี่โรม เล่นตำแหน่งการ์ดจ่าย และ พี่บิ๊ก ที่ถือว่าเป็นซุปเปอร์สตาร์ของทีม เนื่องจากเขาเก่งที่สุดใน สวทช. ฮ่าๆๆ ผมดราฟมา ขี้โกงก่อนเพื่อน พี่เขาจะเป็นคนลุยโดยที่ผมมีหน้าที่สกรีนให้ ฮ่าๆๆ เอาผมไปเป็นกำบังนั่นเอง ตื่นเต้นอย่างไรก็บอกไมถูกเหมือนกัน แต่รู้แต่ว่าจะเล่นให้กระเจิงไปเลย เดือนที่ผ่านมานี้ผมซุ่มซ้อมอย่างมาก เพื่อจะเอาแชมป์รายการนี้มาให้ได้ จะเป็นอย่างไรนั้นต้องรอติดตามชมวันจันทร์นี้
 
Red Shark! GO GO . . .

Friday, March 28, 2008

20080310 K.J. Live in Hong Kong Day 2




In this day, I am alone in Hong Kong. Because Mr.Roland had to work. But It is OK. I can travel by myself, just followed Roland's information about temples. Thank you again.

I visited many places. This trip started at Nan Liang Garden. It likes a park in downtown. There are a lot of interesting places inside. Then I walked a cross the bridge to Chi Li Temple. And Then I came back to Wan Tai Sin Temple. It is a very famous place. I met a group of Thai tourists here, but I didn't talk anything to them. hehehe.

Hilight of today, it is Ten Thousand Buddha Temple. I had to crimb the hill and saw a lot of monk models on the way to the top of hill (temple). When I reached the top, I was very surprise about many little buddha models on the wall inside the temple. It is very nice. I recommend everybody to be there once.

Wednesday, March 26, 2008

20080309 K.J. Live in Hong Kong Day 1 (Myself)




Thank you very much to Mr.Roland. He took photo for me. It's very nice.

Wednesday, March 19, 2008

20080309 K.J. Live in Hong Kong Day 1




I visited Giant Buddha by cable car. So fantastic and exciting. And then came back to Harbour for watching The Symphony of Light and walked around there to see Mascot of Olympic Beijing and Clock tower at night.

I would like to say Thank you to Mr.Roland, my friend works in HKCERT. He guided me to visit around Hong Kong.

Sunday, March 02, 2008

ไวรัสบน USB - ตอนที่ 1 กล่าวนำ

ปัญหาไวรัสที่แพร่กระจายผ่าน USB นั้นมีมากมาย ซึ่งที่สร้างปัญหาในช่วงแรก หรือเป็นเหมือนตัวเริ่มต้นของสายพันธุ์นี้คือ Brontok ที่จะก็อปปี้ตัวมันเองด้วยชื่อโฟลเดอร์ที่พบไว้ข้างในโฟลเดอร์ดังกล่าวด้วย จากนั้นซีรี่ย์ถัดก็พวก Hacked แบบต่างๆ เช่น Hacked by Godzilla, Mozilla, one byte, 8 bits เป็นต้น นอกจากนี้ก็ยังมีทีเด็ดของไวรัสประเภทนี้อีกมากมาย ที่ประทับใจที่สุดก็เห็นจะเป็นวิธีที่ซ่อนโฟลเดอร์ของเราไว้ และสร้างไฟล์ของไวรัสด้วยชื่อโฟลเดอร์ของเรา แล้วยังเปลี่ยนไอคอนของไฟล์ไวรัสให้เป็นรูปแฟ้มสีเหลือง (สัญลักษณ์ของโฟลเดอร์) ถ้าหากว่าเครื่องของเราปรับแต่งค่าไม่ให้แสดงไฟล์ซ่อนและนามสกุล จะเห็นไฟล์ไวรัสเองในลักษณะของโฟลเดอร์ ทำให้ผู้ใช้งานหลงเชื่อแล้วดับเบิลคลิ๊กแต่ไฟล์ไวรัสโดยมีจุดประสงค์เพื่อเปิดเข้าไปในโฟลเดอร์ที่มีชื่อเดียวกับไวรัส นอกจากนี้ไวรัสอีกชนิดที่มีไฟล์ชื่อ "แอบถ่ายนักศึกษา.exe" ยังพัฒนารูปแบบการหลอกลวงไปอีกขั้น แทนที่เมื่อเราดับเบิลคลิกไฟล์นี้ (ด้วยจุดประสงค์ที่ต้องการเปิดโฟลเดอร์) ไวรัสก็จะทำงาน และจะมีไฟล์หลอกเปิดขึ้นมาให้ดูคล้ายกับมีไฟล์ภายในโฟลเดอร์ด้วย

จากประสบการณ์ของผู้เขียนที่เคยเห็นไวรัสประเภทนี้อาการมักจะเกิดขึ้น
  1. ซ่อนไฟล์และโฟลเดอร์ต่างๆ
  2. ซ่อนเมนู Folder Options ที่ Windows Explorer
  3. ไม่สามารถเปิดโปรแกรม Task Manager ได้
  4. ไม่สามารถเปิดโปรแกรม Regedit ได้
  5. ซ่อนเมนู Search ไฟล์ในเครื่อง

ดังนั้นถ้าหากว่าเครื่องคอมพิวเตอร์มีอาการดังที่ได้กล่าวมาในข้างต้นนี้ สามารถที่สันนิษฐานได้ว่าเครื่องคอมพิวเตอร์อาจถูกไวรัสที่สามารถแพร่กระจายผ่านทาง USB คุกคามแล้วก็เป็นได้ ในบทความต่อๆ ไปจะกล่าวถึงวิธีการแก้ไขในแต่ละจุด รวมทั้งวิธีการป้องกันที่ถูกวิธี และเป็นวิธีเดียวอยู่ในขณะนี้ที่ผู้เขียนได้ทดสอบแล้วพบว่าปลอดภัยที่สุด

หมายเหตุ เนื่องจากในขณะนี้ผู้เขียนยังไม่มีรูปของอาการต่างๆ แล้วจะนำมาอัพเดตให้เร็วที่สุด

Tuesday, February 26, 2008

การวิเคราะห์ไวรัสจากระยะไกล-ตอนที่ 2 - Anubis

หลังจากบทความก่อน ผลจากการวิเคราะห์นั้นเป็นเพียงชื่อของไวรัสเท่านั้น ถ้าหากว่าต้องการทราบถึงสิ่งที่ไวรัสหรือไฟล์ที่ต้องสงสัยนั้นทำอันตรายหรือมีพฤติกรรมอย่างไรต่อเครื่องคอมพิวเตอร์แล้วจำเป็นต้องใช้เครื่องมืออื่นเข้ามาช่วย ซึ่งในบทความนี้จะแนะนำเว็บที่จะได้ผลออกมาเป็นข้อมูลทางเทคนิคของโปรแกรมต้องสงสัยว่ามีการทำงานอย่างไร

Anubis - Analyzing Unknown Binaries (http://analysis.seclab.tuwien.ac.at/)

เป็นเครื่องมือที่ถูกวิจัยและพัฒนาโดย Secure Systems Lab แห่ง Vienna University of Technology ประเทศออสเตรีย ซึ่งมีความสามารถในการวิเคราะห์พฤติกรรมของโปรแกรมต่างๆได้โดยอัพโหลดไฟล์ที่สามารถเอ็กซิคิวต์ได้ไปยังเว็บไซต์นี้ จากนั้นจะมีการทดสอบแล้วจึงรายงานผลการทดสอบออกมา ผู้พัฒนาเองยังได้กล่าวไว้ในเว็บไซต์ว่าเครื่องมือนี้จะเน้นในการวิเคราะห์พฤติกรรมของไวรัส และเปิดให้ใช้บริการฟรี

จากข้อมูลในเว็บไซต์ได้มีการเปรียบเทียบให้เห็นความแตกต่างของความสมารถของเครื่องมือสามชนิดได้แก่ Norman Sandbox CWSandbox และ Anubis ซึ่งก็เป็นปกติของเจ้าของเครื่องมือที่จะโฆษณาว่าเครื่องมือของตนเองนั้นดีที่สุด แต่เมื่อได้ทดลองใช้งานพบว่า Anubis เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการทดสอบไวรัสจากระยะไกลที่ดีมาก วิธีการใช้งานง่าย มีรายงานที่อ่านเข้าใจง่าย โดยวิธีการใช้งานคร่าวๆ คือเข้าสู่เว็บไซต์ http://analysis.seclab.tuwien.ac.at/ ทำการอัพโหลดไฟล์เข้าไป แล้วต้องใส่รหัสที่เป็นรูปภาพเข้าไปด้วย จากนั้นกดปุ่ม Submit for Analysis แล้วรอผลการทดสอบ เท่านั้นก็เป็นอันเสร็จสิ้นวิธีการวิเคราะห์ไวรัสจากระยะไกลด้วยเครื่องมือ Anubis




สรุป เครื่องมือ Anubis เป็นเครื่องมือฟรีที่จัดได้ว่ามีความสามารถดีมากเครื่องมือหนึ่ง ในบทความต่อไปจะแนะนำเครื่องมืออื่นๆ อีก เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับการวิเคราะห์พฤติกรรมของไวรัสจากระยะไกลได้

Friday, February 22, 2008

การวิเคราะห์ไวรัสจากระยะไกล-ตอนที่ 1

การวิเคราะห์ไวรัสจากระยะไกล คือการส่งไวรัสไปให้หน่วยงานหรือผู้ให้บริการวิเคราะห์ไวรัสทำการทดสอบ แล้วรายงานผลกลับมาให้ผู้ส่งไวรัสไปทดสอบ ซึ่งวิธีนี้มีข้อดีคือผู้ทดสอบไม่จำเป็นต้องติดตั้งระบบ ไม่ต้องลงทุนระบบมากมาย เพียงแต่จำเป็นต้องมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไว้ และอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับเครื่องใช้งานหลักที่จะต้องเป็นที่เก็บไวรัสไว้ ถ้าหากว่าูผู้ทดสอบไม่มีความชำนาญมากพอ ก็อาจทำให้เครื่องใช้งานหลักถูกไวรัสคุกคามได้ ซึ่งนี้เป็นข้อด้อยที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับการวิเคราะห์ไวรัสจากระยะไกล

การวิเคราะห์ไวรัสจากระยะไกลนี้ อยากจะขอแนะนำเว็บไซต์ที่ให้บริการทดสอบไวรัสให้อย่างอัตโนมัติ ซึ่งในบทความตอนนี้จะแนะนำเว็บ http://www.virustotal.com เว็บนี้มีจุดเด่นคือเป็นเว็บที่จะทดสอบว่าไฟล์ไวรัสที่ส่งเข้าไปทดสอบนั้น มีชื่อว่าอะไร โดยทดสอบกับโปรแกรมป้องกันไวรัสที่ปรับปรุงฐานข้อมูลล่าสุด จำนวน 32 โปรแกรม ซึ่งวิธีการใช้งานเว็บไซต์ดังกล่าวมีดังนี้


รูปที่ 1 หน้าแรกของเว็บไซต์ ซึ่งมีช่องให้ทำการอัพโหลดไฟล์สำหรับทดสอบ

รูปที่ 2 กำลังส่งไฟล์เพื่อทดสอบ

รูปที่ 3 บอกว่าอัพโหลดไฟล์สมบูรณ์และทำการวิเคราะห์เรียบร้อยแล้ว

รูปที่ 4 แสดงผลการทดสอบ

สรุป เว็บไซต์ http://www.virustotal.com เป็นเว็บไซต์สำหรับทดสอบไฟล์ที่ต้องสงสัยว่าเป็นไวรัสหรือไม่ ถ้าเป็น มีชื่อไวรัสว่าอะไร โดยเปรียบเทียบกับโปรแกรมป้องกันไวรัสที่ถูกปรับปรุงฐานข้อมูลไวรัสล่าสุด ในบทความต่อไปจะแนะนำเว็บสำหรับทำการวิเคราะห์ไวรัสให้ได้มาซึ่งพฤติกรรมของไวรัส ไม่ใช่แค่ชื่อของไวรัสเฉกเช่นเดียวกับเว็บไซต์ที่แนะนำไว้ในบทความนี้

20080216 P'Apple & P'Wat Wedding




งานแต่งพี่เปิ้ลกับพี่วัตน์ เป็นพี่สาวของแฟนเพื่อนสนิทของผม ฟังดูแล้วงงมั๊ยหล่ะ ฮ่าๆๆ งานดีเจ้าสาวขอชมเลยว่าแอคทีฟมาก หากิจกรรมมาเล่นในงานแต่งให้ดูบรรยากาศเหมือนงานเลี้ยงรุ่นจริงๆ เนื่องจากเจ้าสาวเพื่อนเยอะมาก ไฮไลท์ของงานนี้ที่ผมประทับใจคือ เจ้าสาวกลัวเพื่อนจะไม่ได้แต่งงานเลยมัดช่อดอกไม้เล็กๆไว้สิบช่อ แล้วรวมเป็นช่อเดียวตอนถือ แต่พอโยนดอกไม้ สาวๆสิบคนที่โชคดีจะได้รับดอกไม้ เพื่อรอเข้าคิวแต่งงานคู่ต่อไป นอกจากนี้เจ้าสาวยังคิดให้มีการจับฉลากผู้โชคดีมารับของรางวัลอีกด้วย ดูแล้วเป็นกันเอง ครื้นเครงดีมากมาย ประทับใจครับ

ผลงานเป็นไงนั้นติชมได้เช่นเดิมนะครับ

Sunday, February 17, 2008

การวิเคราะห์ไวรัส - บทนำ

ในปัจจุบันจำนวนไวรัสคอมพิวเตอร์เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมาก และมีเทคนิคในการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วมาก ทำให้โปรแกรมป้องกันไวรัสไม่สามารถปรับปรุงฐานข้อมูลได้ทันเวลา และอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบเครือข่ายได้ ดังนั้นการวิเคราะห์ไวรัส (Malware Analysis) จึงเข้ามามีความจำเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ซึ่งเป็นกระบวนการหนึ่งที่ใช้ในการศึกษาว่าไวรัสนั้นทำงานได้อย่างไร เพื่อจุดประสงค์ในการสร้างลายเซ็นต์หรือฐานข้อมูลของไวรัสสำหรับโปรแกรมป้องกันไวรัสต่างๆ พร้อมทั้งหาวิธีการแก้ไขเบื้องต้นและวิธีการป้องกันไวรัสได้ ซึ่งวิธีการวิเคราะห์นั้นก็มีหลากหลายวิธีและแต่ละวิธีก็มีความยากง่ายแตกต่างกันได้แก่
  1. Static Analysis เป็นวิธีการวิเคราะห์ในระดับเบื้องลึกของโค้ด โดยการศึกษาด้วยวิธีวิศวกรรมย้อนกลับ (Reverse Engineering) ซึ่งผู้ที่จะใช้วิธีนี้จำเป็นต้องอาศัยทักษะด้านการเขียนโปรแกรมแอสเซมบลีอย่างมาก จึงจะสามารถวิเคราะห์ได้
  2. Dynamic Analysis เป็นวิธีการวิเคราะห์ด้วยพฤติกรรมของไวรัส ศึกษาว่าไวรัสมีความสามารถในการทำอันตรายต่อระบบอย่างไรบ้าง มีการสร้างไฟล์หรือลบไฟล์อะไร รวมทั้งมีการส่งข้อมูลผ่านทางระบบเครือข่ายหรือไม่ ฯลฯ วิธีนี้จำเป็นต้องอาศัยทักษะด้านการใช้งานคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบัติการค่อนข้างสูง แต่วิธีการนี้ยังง่ายกว่าวิธี Static ในบทความต่อๆไป จะสอนวิธีการวิเคราะห์ด้วยวิธีนี้ ซึ่งเป็นวิธีที่ผมศึกษามานานแล้ว
  3. Hybrid เป็นวิธีที่รวมเอาทั้งสองวิธีมารวมกัน

นอกจากนี้วิธีการวิเคราะห์ไวรัสเองอาจสามารถทำได้จากทั้งระยะไกล (คืออัพโหลดไฟล์ไวรัสไปยังเว็บไซต์ที่ให้บริการ ผลที่ได้คือรายงานว่าไวรัสดังกล่าวมีการทำงานอย่างไร) และระยะใกล้ (คือการวิเคราะห์พฤติกรรมของไวรัสที่เครื่องสำหรับทดสอบเอง ซึ่งจำเป็นต้องมีการติดตั้งระบบสำหรับทดสอบด้วย)

สรุปการวิเคราะห์ไวรัสมีความสำคัญมากในปัจจุบัน ในบทความต่อไปจะกล่าวถึงวิธีการวิเคราะห์ไวรัสจากระยะไกล

20070610 Condo




เคยรับงานถ่ายภาพคอนโด ฮ่าๆๆ งานแรก และก็ไม่ค่อยได้เรื่องสักเท่าไหร่เลย แต่ก็หนุกดี ไม่เคยทำมาก่อน

20080126 Joom Lee Wedding




แยกไม่ออกว่านี่คืองานแต่งงานหรืองานเลี้ยงรุ่น ฮ่าๆๆ เจ้าบ่าวเจ้าสาวอยู่บนเวที แต่ข้างล่างคุยกันยังกับมางานเลี้ยงรุ่น ฮ่าๆๆ

เอ้า.... ว่ากันไป ยินดีด้วยนะเพื่อนรัก มีหลานให้อุ้มไวๆนะ
ส่วนพวกที่ยังโสด ก็คงร้องเพลงว่า "แล้วฉันจะตามไป....."

May Graduation ABAC 2008




น้องสาวผมเองครับ เหอๆ งานนี้ก็ถ่ายมั่วอีกเช่นเคย เอิ๊กๆๆ คัดรูปที่พอดูได้มาแค่นี้อ่ะคับ

20071201 Bangkok Music Fest 2007




จริงๆแล้ววันนั้นไปถ่ายมาเยอะกว่านี้ แต่เนื่องจากน้องที่หอเขาอยากได้รูปกอล์ฟไมค์ เลยจะมีแค่นี้ ฮ่าๆๆ เพราะขี้เกียจแต่งรูป

ปล. กอล์ฟไมค์จะร้องเพลงนิ่งๆไม่ได้เหรอไงเนี่ย โดดไปโดดมา ใครจะไปถ่ายทัน ชุดนี้ส่องด้วย 70-200 f2.8 Sigma

Friday, February 08, 2008

The Face of Malware.

Have you ever seen face of malware? Last week I read the news about Drawing a (Scary) Face on Malicious Software. The Romanian artist,Alex Dragulescucreated his so-called "threat art" in conjunction with live malware intercepted by e-mail security firm MessageLabs. He creates a variety of threat such as Malwarez, spam, and botnet ,etc.

Malwarez is a series of visualization of worms, viruses, trojans and spyware code. For each piece of disassembled code, API calls, memory addresses and subroutines are tracked and analyzed. Their frequency, density and grouping are mapped to the inputs of an algorithm that grows a virtual 3D entity. Therefore the patterns and rhythms found in the data drive the configuration of the artificial organism.




























from top to bottom:

Stormy (Worm), PWSLineage (Trojan) , MyDoom, Russian3 (Spam),IRCbot (BotNet), Virutmytob (Virus).



Saturday, January 26, 2008

วันแต่งงานเพื่อนสนิท กับความรู้สึกเบื่อๆ

วันนี้เป็นวันแต่งงานของเพื่อนสนิทของผม แต่วันนี้ผมกลับรู้สึกเบื่อๆ ยังไงก็ไม่รู้ อาจจะเป็นเพราะเหนื่อยหรือขี้เกียจทำอะไรต่ออะไรกันแน่ก็ไม่รู้ แต่เย็นนี้อาจจะสนุกขึ้นก็ได้ เพราะเป็นงานแต่งแรกที่ไม่ใช่ตากล้อง แต่ว่าเป็นพิธีกรสัมภาษณ์ผู้ร่วมงาน ผลงานจะเป็นอย่างไรนั้น เด๋วคงมาเล่าให้ฟังต่อไปนะครับ

Thursday, January 24, 2008

เฝ้ารอเพียงเพื่อ....

อาการนี้คงเคยเกิดกับคนทุกๆคนมาแล้วนะครับ
ถ้าหากว่าเรารู้สึกดีกับใครสักคน หรือแอบชอบใครสักคนอย่างมาก
แล้วนั้นการที่เราจะนั่งเฝ้ารอใครสักคน เพื่อเพียงแค่จะได้พูด ได้บอกอะไรบางอย่าง อาจไม่จำเป็นต้องใช้คำที่สวยหรู
เพียงแค่ถามเขาว่าเขาสบายดีไหม เขาทำอะไรอยู่ กินข้าวหรือยัง
มันเหมือนกลายเป็นพฤติกรรมของคนโรคจิตได้เหมือนกันนะเนี่ย
ถ้าหากปกติเขาโทรศัพท์หรือส่ง sms มาก็จะเฝ้ามองโทรศัพท์ พอเสียงดังขึ้นก็รีบรับทันที เพื่อจะดูว่าใช่เขาคนนั้นไหม
ถ้าหากปกติคุยกันผ่านทาง MSN ก็จะเฝ้าดูว่าเมื่อไหร่เขาจะออนไลน์
เฝ้าดูว่าวันนี้เขาจะใช้ชื่ออะไร วันนี้เขาใช้รูปอะไร เขียนบล็๋อกเพิ่มหรือเปล่า
 แต่พอเห็นชื่อเขาเหมือนว่ากำลังมีความรัก หรือเขาบ่นถึงใครสักคนที่ไม่ใช่เรา
ก็รู้สึกเหมือนมีคนเอามีดมาเสียบตรงกลางใจ
อยากคุยก็อยากคุย
อยากถามว่าคนนั้นเป็นใครเหรอ เป็นเราหรือป่าว ฮ่าๆๆ จึงเป็นที่มาของเพลง อยากรู้แต่ไม่อยากถาม (ได้ชิดเพียงลมหายใจ ......)
 
แต่อย่างไรก็ตามเราก็ยังคงอยากคุยกับเขาอยู่เหมือนเดิมนั่นแหล่ะ ฮ่าๆๆ
ยิ่งถ้าหากเป็นคนที่เราแอบชอบแต่ไม่ได้บอก แล้วก็รู้ว่าเขาคงไม่ชอบเช่นกันด้วยหล่ะก็
ผมว่ามันยิ่งทรมานมากเลยนะครับ
พอแระ มาบ่นความรู้สึกของตัวเองที่เกิดขึ้นเป็นพักๆ ฮ่าๆๆ ไ
ปหาไรกินดีก่า
อย่าคิดมากนะลูกพี่ แค่ผู้หญิงคนเดียว

Thursday, January 17, 2008

เธอไม่ต้องรู้หรอก

วันนี้แอบเบื่อ เลยเปิดเพลงฟัง ดันไปเจอเพลงเก่าๆ มันบอกถึงความรู้สึกของคนๆนึงที่มีต่อผู้หญิงสักคน แต่ไม่อยากให้เธอได้รู้ ฟังแล้วเศร้า..... ทำไมเหมือนตัวเองเลยเนี่ย ฮ่าๆๆๆๆๆ

เพลง : เธอไม่ต้องรู้หรอก
อัลบัม : อกสามศอก
ศิลปิน : ศรราม เทพพิทักษ์

คนที่พูดจาไม่อ่อนหวานในถ้อยคำ
แต่ทุกคำนั้นตรงมาจากใจเสียงที่มาผ่านความจนได้ฟัง
จำได้บ้างหรือไม่เสียงความจริงจากใจทุกๆ คำ
เป็นแค่เพื่อนเธอ .. แอบมองเธอมาเนิ่นนาน
เก็บความรักนั้นซ่อนความรู้สึกไว้
ฉันไม่อาจเอื้อมไปให้ถึงเลยเพราะรู้ว่าสูงเท่าไหร่
ที่เป็นอยู่ก็ดีแค่ไหนได้ใกล้เธอ

เธอไม่ต้องรู้หรอก ไม่ต้องมาเห็นใจกัน
แค่ทุกวันให้ฉันเป็นดั่งเงาของเธอ
เธอไม่ต้องรู้หรอก แค่ปล่อยให้ใจฉันเพ้อ
วันนี้มีเธอให้ฉันละเมอข้างเดียวก็พอแล้ว

คำเป็นร้อยพันเก็บเอาไว้จนล้นใจ
แต่ก็ไม่คิดพูดไปให้เธอรู้ขอเป็นคนที่อยู่ข้างหลังเธอ
อยู่ตรงนี้เพื่อคอยเฝ้าดู...ให้เธออยู่ในใจอย่างนี้ก็ดีอยู่แล้ว

เธอไม่ต้องรู้หรอก ไม่ต้องมาเห็นใจกัน
แค่ทุกวันให้ฉันเป็นดั่งเงาของเธอ
เธอไม่ต้องรู้หรอก แค่ปล่อยให้ใจฉันเพ้อ
วันนี้มีเธอให้ฉันละเมอข้างเดียวก็พอแล้ว

เธอไม่ต้องรู้หรอก ไม่ต้องมาเห็นใจกัน
แค่ทุกวันให้ฉันเป็นดั่งเงาของเธอ
เธอไม่ต้องรู้หรอก แค่ปล่อยให้ใจฉันเพ้อ
วันนี้มีเธอให้ฉันละเมอข้างเดียวก็พอแล้ว

 เธอไม่ต้องรู้หรอก ไม่ต้องมาเห็นใจกัน
แค่ทุกวันให้ฉันเป็นดั่งเงาของเธอ
เธอไม่ต้องรู้หรอก แค่ปล่อยให้ใจฉันเพ้อ
วันนี้มีเธอให้ฉันละเมอข้างเดียวก็พอแล้ว