Saturday, September 19, 2009

เผาเพื่อนร่วมชั้น ตอนที่ 3

ความเดิมจากตอนที่แล้ว

เผาเพื่อนในห้องเรียน ตอนที่ 1

เผาเพื่อนในห้องเรียน ตอนที่ 2

วันนี้เป็นวันหยุดที่แสนน่าเบื่อ ทั้งๆที่เป็นวันเริ่มต้นของการหยุดยาว เฮ้อ... ฝนดันตกซะนี่ ทำไมวันที่มีเรียนมันไม่ตกฟร่ะเนี่ย ตรูหล่ะเซ็ง วันนี้ตั้งใจจะไปชายหาดแห่งเดียวในเมืองนาฮาซะหน่อย เซร็งงงง ก็เลยมานั่งเผาเพื่อนในห้องตอนจบดีกว่า อิอิ

มาถึงอวสานแห่งบล็อกไตรภาคเรื่องเผาเพื่อนในห้องเรียนแล้วนะครับ สองตอนที่ผ่านมากระแสตอบรับค่อนข้างแรงใช้ได้ ฮ่าๆๆ ผ่านมาแล้วทั้งหมด 9 คน เหลืออีก 2 คน (ไม่รวมคนไทยนะครับ อิอิ) มาดูต่อกันเลยดีกว่า

10. มาลกิ  เพื่อนชาวซาอุดิอาระเบีย รูปร่างสูงประมาณ 180 ซม. ไม่อ้วนเท่าไหร่นัก (ถ้าเทียบกับผม เหอๆ) ผมสั้นและค่อนข้างบาง นั่งเรียนโต๊ะอยู่ข้างๆกัน ซาอุดิอาระเบียก็รู้ๆกันอยู่ว่าประเทศนี้มีแต่คนรวย ดังนั้นมุขของมาลกินั้นก็จะเป็นเชิงของคนรวย อย่างเช่นว่า เทียระ (เพื่อนร่วมชั้นชาวกัมพูชา ถ้าจำไม่ได้อ่านตอน 1) คำพูดฮิตติดปากของเขาคือ "No budget" หรือ "Need more budget" จะไปเที่ยวไหนทั้งกลุ่ม หรือจะทำไรที่จะต้องออกเงินเทียระก็มักจะบ่นคำนี้ แต่มาลกิจะพูดตรงข้ามกัน หรือตอนเรียนวิชาโอเพ่นซอร์ส ทุกๆประเทศบอกว่าจะนำไปใช้เพื่อประหยัดงบประมาณ แต่มาลกิจะบอกว่าไม่มีปัญหาเรื่องงบ เลยจะใช้ลิขสิทธิ์ เหอๆ มาลกิอย่าให้ได้จับคู่กับฟรังโก้เชียวนะครับ (เพื่อนจากระวันดา อ่านได้ในตอนที่ 2) เหตุผลหน่ะเหรอครับ ก็เพราะว่ามันคุยๆกันอยู่ ก็หัวเราะแบบขำจนหยุดไม่ได้ บางครั้งมุขมันก็ไม่รู้จะขำบรรทัดไหน แต่มันสองคนก็ขำกันได้ (เอ่อออ เอาเข้าไป) มาลกิเป็นชาวอิสลามคนเดียวในห้อง ดังนั้นในช่วงเทศกาลถือศีลอด จะเป็นคนเดียวที่ไม่ได้กินข้าวเช้าและเที่ยงที่โรงอาหาร และจะยิ่งน่าสงสารกว่าในวันที่จะต้องออกไปข้างนอก ฮ่าๆๆ มีครั้งนึงผมคุยกับเขาว่าผมจะไปพิพิธภัณฑ์โอกินาว่ากับพี่อุ เขาสนใจจะไปมาก ก็เลยโอเค ไปด้วยกัน ผมพาเดินท่ามกลางแสงแดดที่สุดแสนจะทรมาน (ถ้าลองมาเดิน ก็จะคิดว่าทำไมตรูต้องมาทรมานตัวเองอย่างนี้ด้วยฟ่ะ นอนอยู่ห้องเฉยๆก็ไม่มีใครว่านะ) พอไปใกล้ถึงพิพิธภัณฑ์ผมกับพี่อุก็ซื้อน้ำคนละขวด ดื่มอย่างอร่อย แต่ว่า.... มาลกินั่นทานไม่ได้ และเป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกผิดที่พาเขาไปทรมาน ฮ่าๆๆ อีกครั้งนึงตอนไปบัสทัวร์ที่ Churaumi Aquarium ทั้งรถบัสกินกัน แต่มาลกิคนเดียวทานไม่ได้ เหอๆ อย่างไรก็ตามมาลกิเป็นคนที่มีอัธยาศัยดีมาก นิสัยดี

11. มาถึงคนสุดท้ายของห้องแล้วนะครับ นั่นก็คือเพื่อนชาวเวียตนาม นามว่า "หล๋อง" หรือถ้าเขียนเป็นภาษาอังกฤษก็ Long ที่แปลว่ายาวอ่ะครับ ฉายาที่ถูกตั้งให้คือ นาไก ซัง (Nagai ภาษาญี่ปุ่นแปลว่า Long) ไม่ใช่เพราะชื่อเท่านั้นนะครับที่ตั้งฉายาให้แบบนี้ เนื่องด้วยตัวของหล๋องนั้นสุงผอม(มาก) จนพี่น้องเคยฝากผมไปถามว่าเก็บกระเพาะให้ตรงไหนหล๋องไว้ผมเท่ห์มากครับ (เมื่อสมัยเต๋าสมชายออกอัลบัมชุดแรกๆ เด็กๆคงเกิดกันไม่ทันใช่มั้ย) เป็นผมทรงบ็อบเท ปัดข้างหมดหัว ถ้าคาดผ้าเช็ดหน้าที่หัวหน่อยนะ ใช่เลย พี่เต๋าสมชาย ฮ่าๆๆ หล๋องเป็นคนเงียบๆนิสัยดี เรียบร้อย(มาก) จนมักจะถูกไอ้ซันเกย์(ชาวภูฏาณ อ่านได้จากตอนที่ 1)แกล้งเป็นประจำ มันชอบไปใกล้ๆหล๋องแล้วก็เรียกชื่อว่า หล๋องซัง ดังๆ หล๋องก็จะสะดุ้ง ที่บอกว่าหล๋องเป็นคนเงียบๆนั้นอาจจะเป็นเพราะภาษาอังกฤษของเขาไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก ทำให้เขามักจะยิ้มเสมอเมื่อถูกถาม (พูดยังกับว่าภาษาของผมดีนักเนี่ย -_-") เวลามีอธิปรายหน้าชั้นเรียน หล๋องก็มักจะพูดเบาเสมอ จนมีเมื่อวานนี้เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินเสียงของเขาชัดเวลาอภิปรายหน้าชั้น หล๋องซังเป็นคนขยันเดินมาก เพราะทุกครั้งเราจะเห็นหล๋องมากินข้าวด้วยชุดเสื้อสีขาวกางเกงขาสั้น จากนั้นเวลาจะเข้าเรียน เราก็จะเห็นเขาเปลี่ยนชุดเพื่อเข้าเรียน (ยังกับว่าชุดเสื้อขาวตัวใหญ่ๆ กับกางเกงขาสั้น น้ันเป็นยูนิฟอร์มสำหรับกินข้าว ยังไงยังงั้นเลยครับ เหอๆ) ขึ้นลงบันไดมากกว่า 60 ขั้นเพื่อไปกินข้าวแล้วก็ขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วยังต้องเดินกลับไปเรียนที่ตึกใกล้ๆกับโรงอาหารอีก ฮ่าๆๆ ขยันจิงเว้ย 

เผาเท่านี้ดีกว่า ฮ่าๆๆ พอหอมปากหอมคอ 

จากสามตอนที่ผ่าน ลองเดาดูนะครับ ว่าใครชื่ออะไรบ้าง ฮ่าๆๆ  ใบ้นิดนึงว่า คนที่ไม่มีบัตรคล้องคอคือเพื่อนในห้องเรียนผมนะครับ ฮ่าๆๆ

http://foh9.multiply.com/photos/album/88/Photo_Album_2009-09-18

1 comment:

r s said...

โฉบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ ฟิ้ว ฟิ้ว

เด๋ว ค่อยมาอ่าน