5 กันยายน 2552
เมฆที่ลอยต่ำคล้อยสายลมอ่อนๆ พอที่จะทำให้เห็นก้อนเมฆนั้นล่องลอยไหลไปบนท้องฟ้า ราวกับว่ามีซุนหงอคงกำลังขี่เมฆสีทองเคลือนที่ไป หรือก็เหมือนกับมีคนถ่ายวีดีโอที่ก้อนเมฆไว้จากนั้นก็กดปุ่ม FF เพื่อเร่งให้ก้อนเมฆเคลื่อนที่ไปอย่างรวดเร็ว เมฆฝนที่เมื่อกี้หอบพาความชุ่มฉ่ำจากสายฝนเพิ่งได้ลอยเคลื่อนหายไป แสงแดดยามสายๆก็ทอดแสงตามหลังออกมาพร้อมกับความหวังที่ผมจะได้เก็บภาพสวยๆกลับไปอวดใครต่อใคร
9.52 น. เวลาออกเดินทางทริปนี้เรียกว่า OIC Bus tour เป็นทัวร์ที่ทาง OIC จัดเพื่อผู้เข้าอบรมทุกคนที่มีความสนใจเพราะว่า Churaumi Aquarium นั้นอยู่เมือง Motobu-cho จากเมือง Urosoe ที่ผมพักก็ประมาณเกืบสองชั่วโมง รถบัสที่อัดแน่นด้วยผู้เข้าอบรมและเจ้าหน้าที่ที่ดูแลจำนวน 60 คนจากนานาประเทศ เก้าอี้เสริมพิเศษตรงกลางทางเดินถูกกางออกมาใช้งาน ผมและพี่อุได้นั่งอยู่แถวกลางๆคันเยื้องไปทางด้านหลังเล็กน้อย ผมได้หยิบเครื่องเล่น mp3 เปิดเพลงไทยแบ่งกับพี่อุฟังกันคนละหู เสียงพูดคุยภาษาต่างๆเซ็งแซ่กันอย่างไม่หยุดไม่ว่าจะเป็นภาษาอังกฤษ สเปนิช ตากาล็อก ฯลฯ พวกเขาคงกำลังมีความสุขและตื่นเต้นที่จะได้ไปเที่ยวกันกระมัง มีเพียงแต่เราสองคนที่ไม่ได้พูดคุยอะไรกันมาก นั่งรถกันมาหลับบ้างตื่นบ้างประมาณเกือบหนึ่งชั่วโมง เราก็มาถึงขอบทะเลถ้าเรานั่งรถตามทะเลนี่ไปเรื่อยๆก็จะถึงกับเป้าหมายที่เราจะไปกัน น้ำทะเลสองสีที่ใสพอที่จะอวดความงามของโขดหินอยู่เบื้องล่าง โดยมีฉากหลังเป็นภูเขาของชายหาดอีกด้าน และท้องฟ้าที่มีเมฆก้อนเล็กๆประปรายกระจายเต็มท้องฟ้า
11.10 น. เวลาดีที่เจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้คนขับรถบัสจอดที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตเพื่อซื้ออาหารกลางวันไปทานที่ aquarium เพราะราคาจะถูกกว่าไปกินข้างในนั้น จากนั้นก็ออกเดินทางต่ออีกไม่นานก็ถึงสถานที่เป้าหมายของเราแล้ว แต่จากที่จอดรถบัสนั้นต้องเดินไปค่อนข้างไกลสักหน่อยกว่าจะถึงทางเข้า เมื่อมาถึงหน้าทางเข้าก็ถ่ายรูปสัญลักษณ์ของที่นี่ที่เป็นรูปปั้นปลาวาฬสีเขียวอยู่บนแท่งปูนที่เหมือนกับชูปลาวาฬนี้ขึ้นเพื่อให้คนได้สังเกตเห็นได้ง่าย และเป็นเหมือนบอกผู้มาเยี่ยมชมว่าคุณได้มาถึงแล้ว เร็วๆ รีบเข้ามาเร็วๆสิ ผู้คนมากมายน่าจะมาจากทั่วสารทิศทำให้สถานที่แห่งนี้ดูเล็กไปเลย ไม่รอช้าผมงัดอาวุธที่เปลี่ยนฟิลเตอร์เป็น CPL อยู่แล้วเก็บภาพความงามของปลาวาฬสีเขียวพร้อมฉากหลังสีฟ้าเข้มมาฝาก และเมื่อเข้าไปด้านใน สิ่งแรกที่ทำคือทานข้าวเที่ยงกันในห้องสำหรับนั่งพัก เติมพลังก่อนไปดูตู้ปลายักษ์กัน
หลังจากเติมพลังเรียบร้อยแล้วยังพอมีเวลาประมาณ 40 นาทีสำหรับเดินเข้าไปรีวิวใน aquarium รอบแรก ก่อนจะถึงเวลาโชว์ปลาโลมา ผมไปกับพี่อุ เอ็ดดี้และมากิ
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้แบ่งเป็นสี่ชั้น
ชั้น 4F Invitation to the Great Sea
ชั้น 3F Journey to a Coral Reef
ชั้น 2F Journey to the "Kuroshio" (Black Current Sea)
ชั้น 1F Journey into the Deep Sea
ขณะนี้เราอยู่กันที่ชั้น 3F หลังจากผ่านเครื่องตรวจตั๋วเข้ามาด้านในก็ตื่นเต้นตั้งแต่จุดแรก พบกับซุ้มปลาดาว เขาเอาปลาดาวมาจัดแสดงพร้อมให้ผู้เยี่ยมชมสัมผัสปลาดาวได้อย่างเป็นๆ และเดินถัดมาจะเป็นไฮไลท์ของชั้นนี้คือตู้ปลาที่เขาเพาะเลี้ยงประการัง โดยที่ตู้ปลาที่นี่นั้นเน้นจำลองระบบนิเวศจริงๆ ประการังในตู้จึงยังมีชีวิตอยู่และมีการเพิ่มจำนวนอย่างต่อเนื่องอีกด้วย ตู้ประการังที่จัดแสดงนั้นทอดยาวออกไปหลายเมตรหันทิศทางไปทางประตูทางเข้า ทำให้ผู้ที่ต่อแถวตรวจตั๋วอยากจะรีบผ่านเข้ามายลเหลือเกิน ปลาขนาดเล็กมากมายว่ายเข้าๆออกๆในดงประการังหลากสีสรรที่พลิ้วไหวอย่างอิสระไร้ทิศทาง ดูแล้วเหมือนกับเด็กๆกำลังวิ่งเล่นอยู่ในสนามเด็กเล่นเลย
ตลอดทางเดินในชั้นนี้นั้นก็มีตู้ปลานั้นจัดแสดงตลอดทาง แสงแดดที่ด้านบนของตู้ปลาตลอดทางนั้นสาดส่องบนผิวน้ำเหมือนกับว่าติดตั้งสปอตไลท์ดวงใหญ่อยู่ด้านบนตู้ ในบางช่วงนั้นแสงแดดส่องลงมาทำให้น้ำในตู้นั้นเหมือนมีม่านบางๆอยู่อีกด้านของกระจก ฝูงปลาน้อยใหญ่ว่ายอวดสีสรรของตัวเองอยู่หลังผ้าม่านบางๆนี้ด้วย
ในตอนนี้ผู้อ่านคงจะรู้สึกเหมือนตนเองกำลังดำดิ่งลงไปในห้วงทะเลลึก ในตอนต่อไปจะเป็นไฮไลท์ของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้แล้วนะครับ ติดตามต่อได้ที่นี่เร็วๆนี้ อิอิ
ตอนที่ 2
5 comments:
อิจฉาเจงๆ จะไปปักกิ่งพรุ่งนี้ อยากได้อะไรมั้ยคะ
แหงะ อิจฉาอ่ะเที่ยวหย่ายเลย
บล๊อกเน้ เล่าละเอียด พร้อมแผนที่ ประกอบ เยย
รูปสุดท้ายสวยโคตรๆๆๆๆๆ
ปล.วันนี้ล่ะจะไปเล่นบาสจริงๆ แว๊ว เด๋วเล่นเผื่อนะเพ่ อิอิ
อยากไป อคอเรียมดี ๆ บ้างจัง ตอนไปอยู่ที่ ออส ผมไม่ได้ไปไหนเลย นอกจาก อพาร์ทเมนต์ โรงเรียน ที่ทำงาน แล้วก็วนไปไม่รู้จบ T T
Post a Comment