ต่อจากตอนที่แล้ว Okinawa Churaumi Aquarium ตู้ปลายักษ์ ตอนที่ 1
ความเดิมจากตอนที่แล้วนั้น เราไปเยี่ยมชมกันไปสองชั้นแล้วโดยที่ชั้น 4F นั้นเป็นที่ที่เรารับประทานอาหารกัน และชั้น 3F เป็นทางเข้า Aquarium และชมความงามของประการังที่มีชีวิตตามธรรมชาติและถูกจัดโชว์ไว้ในตู้ปลา ตอนนี้เราจะลงลึกสู่ใต้มหาสมุทรอีกชั้น ซึ่งเป็นชั้นที่จัดได้ว่าเป็นไฮไลท์ของที่นี่นั่นก็คือ ตู้ปลายักษ์นั่นเอง
หลังจากเดินผ่านเข้าไปก่อนถึงตู้ปลายักษ์นั้น จะต้องผ่านส่วนที่เป็นเหมือนนิทรรศการแสดงสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล โดยถูกจัดเป็นบูตๆต่อๆกันไปเรื่อยๆ มีตั้งแต่กุ้ง ปลาหลากหลายชนิด งูทะเล ปลิงทะเล หอยเม่น ฯลฯ แต่ที่ผมชอบมากที่สุด คือการจำลองว่าถ้ามีคนเผลอไปเหยียบสิ่งมีชีวิตพวกนี้เข้ามันจะมีปฏิกริยาอย่างไร กุ้งยักษ์เป็นเหมือนกุ้งมังกรแต่ผมไม่เคยเห็นที่ไหนใหญ่เท่านี้มาก่อนเลยครับ พวกเราก็หยุดชมกันเป็นระยะ ที่แห่งนี้ถ้าเหมือนกับสนามโอลด์แทรฟฟอร์ด (สนามของทีมแมนยู) ก็คงเห็นอุโมงค์ที่ออกจากห้องแต่งตัวไปยังสนามนั่นแหล่ะ เราใช้เวลาที่โซนนี้ไม่นาน เพราะเราตื่นตาตื่นใจกับสิ่งต่อไปที่เราจะได้เจอมากกว่า
เพียงชั่วอึดใจเราก็จะตื่นเต้นกับตู้ปลาอะคลีลิคที่ใหญ่ที่สุดในโลกจากด้านข้างของมัน มันทำให้ผมอดใจไม่ได้ที่จะต้องรีบเร่งฝึเท้าเข้าไปชมความงามจากด้านหน้าของตู้ปลานี้ เมื่อผมเดินผ่านด้านข้างของตู้โดยที่ผมไม่หยุดแม้แต่จะถ่ายรูปสักใบเดียวจนออกมาถึงด้านหน้า ทุกสิ่งทุกอย่างในความรู้สึกผมตอนนั้นมันเหมือนหยุดนิ่งไปหมดไม่ได้ยินแม้แต่เสียงฝีเท้าของผมที่กำลังก้าวอยู่ ไม่ได้ยินเสียงผู้คนมากมายที่คุยกัน พลันในหัวของผมไม่มีคำบรรยายใดๆ ที่จะเอ่ยออกมาได้ มันอลังการมากเลยครับ ด้วยขนาดของตู้นั้นมีความกว้าง 22.5 เมตร สูง 8.2 เมตร และมีความหนาถึง 2 ฟุตเลยทีเดียว เหมือนกับผมกำลังยืนอยู่ด้านหน้าจอภาพยนต์ที่กำลังฉายหนังที่มีตัวเอกของเรื่องเป็นฉลามวาฬตัวใหญ่แวกว่ายอยู่ในใต้ท้องทะเล มีแสงแดดสาดส่องลงมาทำให้เราได้เห็นความงามใต้ท้องทะเลได้ชัดเจนมากขึ้น นอกจากตัวเอกแล้วตัวรองของเรื่องนี้ก็คงต้องยกให้กับเจ้ากระเบนยักษ์ และฝูงปลาน้อยใหญ่หลากสีที่ว่ายกันเป็นกลุ่มก้อนมากมาย ผู้คนมากมายกำลังยืนดูภาพยนตร์เรื่องนี้กันอย่างใจจดใจจ่อ บ้างก็หยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมาเสียงชัตเตอร์ แช๊ะ แช๊ะ ดังอย่างไม่ขาดสาย และสลับกับแสงแฟลชส่องให้วูบวาบเป็นระยะๆ แต่ภาพที่ผมต้องการอย่างได้คือ ภาพความงดงามของตู้ปลาพร้อมด้วยผู้คนที่กำลังตื่นเต้นกับความงดงามนี้ ซึ่งภาพก็เป็นอย่างนี้แหล่ะครับ
หลังจากที่หยุดอึ้งกับความงามสักพักใหญ่ๆ ที่ห้องเล็กๆด้านบนนั้นจะจัดแสดงพิพิธภัณฑ์ที่เกี่ยวกับปลาฉลาม ซึ่งผมใช้เวลาไม่นานครับ เพราะอยากมาสัมผัสกับความรู้สึกตู้ปลาขนาดใหญ่นี้ต่อ ในห้องแสดงปลาฉลามนั้นจะมีตู้ปลาฉลามที่เลี้ยงฉลามหลากหลายชนิด และแสดงกระดูกขากรรไกร และความน่ากลัวของฟัน แค่กระดูกนั้นก็คงทำให้ใครหลายคนไม่อยากจะคิดว่าถ้าหากมันงับที่ขาเราจะเป็นอย่างไร น่าสยดสยองมากมาย
ตอนนี้เราก็เหลืออีกชั้นสุดท้ายแล้วก่อนที่จะออกไปข้างนอก เพื่อไปดูโชว์ต่างๆ ชั้น 1F เป็นชั้นที่จัดแสดงความงดงามของใต้ทะเลลึก ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างนั้นค่อนข้างมืด มืดซะจนผมไม่สามารถเก็บภาพมาฝากได้เลย ลองจินตการกับสิ่งที่ผมจะเล่าต่อไปแล้วกันนะครับ เมื่อมาถึงโซนนี้แสงต่างๆเริ่มลดน้อย เปรียบเสมือนกับเรากำลังดำลงมาสู่ก้นมหาสมุทร แท้จริงแล้วทางพิพิธภัณฑ์นั้นต้องการจำลองบรรยากาศให้เหมือนจริงมากที่สุด เพื่อให้สิ่งมีชีวิตต่างๆที่จัดแสดงนั้นสามารถดำรงชีวิตไปได้โดยปกติ ตอนนี้ทางขวามือของผมเป็นตู้ขนาดใหญ่ ข้างในนั้นค่อนข้างมืดแต่ก็ยังพอมองเห็นได้บ้าง บนพื้นภายในตู้นั้นผมเห็นปูตัวใหญ่มาก น่าจะเป็นปูอลาสก้าหรือป่าวไม่แนใจเหมือนกัน และปลาต่างๆ ก็ว่ายไปมา แต่จุดที่ผมสนใจคือห้อง Ocean Planetation เป็นห้องที่มีผ้าสีดำกั้นหน้าห้อง เหมือนกับว่าข้างในนั้นมีความลับให้น่าค้นหา (ถ้าเป็นตามห้างร้านหนังสือหรือวีดีโอ ก็คงเป็นโซนที่เด็กต่ำกว่า 18 ปีเข้า เหอๆ) ข้างในนั้นจะแบ่งเป็นตู้ย่อยๆขนาดไม่ใหญ่มาก พอจัดแสดงสิ่งมาชีวิตต่างๆ ได้ ประการังเรืองแสงได้ก็มี เห็นเป็นสีส้ม สีม่วง สีฟ้า ดูแล้วช่างงามตาจริง แต่โดยส่วนตัวแล้วผมยกให้ไฮไลท์ของห้องนี้คือปลา Lanterneye fish เนื่องจากว่าปลานี้ทำให้ผมนึกถึงหิ่งห้อยที่เรืองแสงกำลังว่ายน้ำอยู่นั่นเอง เนื่องจากว่าที่ใต้ตาของปลาชนิดนี้นั้นมีเหมือนสารเรืองแสงได้ ทำให้เราจึงเห็นแสงนี้ลอยไปลอยมานั่นเอง หลังจากเดินชมความงดงามในโซนนี้เสร็จ ออกมากก็ต้องไม่มีพลาดแน่นอนสำหรับที่ขายของฝากที่ระลึกต่างๆ เอาไว้เพื่อดูดเงินจากนักท่องเที่ยวหรือผู้เยี่ยมชม อิอิ แล้วก็เป็นทางออก ซึ่งสำหรับผู้ที่จะกลับเข้าไปข้างในใหม่นั้นจะต้องให้เจ้าหน้าที่ประทับตราที่แขนสำหรับเข้าไปด้านในอีกครั้งได้
ออกมาด้านนอกก็ต้องหยุดถ่ายภาพกับอาคารของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้หน่อยครับ ท้องฟ้ายามบ่ายพระอาทิตย์สาดแสงเข้ามาที่อาคาร ทำให้ผมใช้ฟิลเตอร์ได้อย่างสบายใจ ก็ไม่รอช้าสอยไปเลย อิอิ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ความงดงามและความยิ่งใหญ่ของ Aquarium ที่ถูกจัดให้มีความใหญ่เป็นอันดับสองของโลก คงตื่นตากันไม่น้อยเลยนะครับ ถ้ามีโอกาสมาโอกินาว่า ที่แห่งนี้ต้องห้ามพลาดเลยครับ ตอนต่อไปนั้นผมจะพาไปเที่ยวไหน ติดตามต่อไปนะครับ อิอิ
ติดตามชมภาพทั้งหมดได้ที่ http://foh9.multiply.com/photos/album/86
11 comments:
เขียนได้อลังการงานสร้างมากเลยพี่โน๊ต ชอบเข้ามาอ่าน แต่ก็ไมไ่ด้เมนท์สักกะที
อันนี้เลยขอแจมหน่อยละกันนะพี่ เหะๆ
มาอ่านแระ
ดีมาก โดนบังคับอ่าน เอิ๊กๆๆ
อยากไปเห็นกะตาตัวเองมั่งอ่า
แง แง
เขียนซะอยากไป เยย
มาเลยน้อง ซื้อตั๋วมาเลย ออกค่าที่พักเองด้วยนะ ไม่มีให้ ฮ่าๆๆๆ
หุหุ
ไม่คิดจาช่วยน้องประหยัดเลย น่ะ ชิ
ขี้งก
ช่วงเน้ก้อหาที่พัก ๆ ถูก รอเลย เอิ้กๆ
ฮ่าๆ ข้างถนน ถูกแน่นอน
ไม่รู้เหมือนกัน ถ้าจะมาจิงๆก็ต้องหา ว่าแต่จะมาทำไมเนี่ย มันบ้านนอกจะตาย ฮ่าๆๆ ถ้ามาเที่ยวแค่ดูตู้ปลาหน่ะโอเค
เฮ้ย หาค่าเครื่องบินแทบตาย
มาดูแค่ตู้ปลายักษ์ ไม่ดีม้างงงง
แต่ก้อพูดไปงั้นแร่ะ ชงกาแฟจนมือหงิก ทั้งปี ยังไม่ได้ค่าตั๋ว เลย
อยู่เมืองไทย อ่านบล๊อกเฮียไป ก้อเหมือนได้ไป แร้น
เด๋วเอาไปรวมเล่มขายดีกว่า ฮ่าๆๆ
เอาให้จิง
กลัวจะมีอารมณ์เขียนได้แค่ช่วง ต้น อ่ะดิ
ปล, ขายได้ เอาไปเลี้ยงหนม น้องมั่งน๊า ฝากเนื้อฝากตัว คร้าบ
สมเป็นน้องจิงๆ รู้นิสัยจริงๆ อ่าๆๆ
Post a Comment