ภาพประกอบ http://www.silicon.com/
ดังนั้นอาชญากรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-crime หมายถึง การกระทำผิดกฎหมายใด ๆ ซึ่งใช้เทคโนโลยีของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์สื่อสารต่างๆ ฯลฯ เป็นเครื่องมือ อันทำให้เหยื่อได้รับ ความเสียหาย และผู้กระทำได้รับผลประโยชน์ตอบแทน ซึ่งในการสืบสวนสอบสวนของพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อนำผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี ต้องใช้ความรู้ทางเทคโนโลยีเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีคำศัพท์ที่มีความหมายใกล้เคียงกัน เช่น อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ (computer crime) และ อาชญากรรมไซเบอร์ (cyber crime) ด้วย
อาชญากรรมอิเล็กทรอนิกส์ถูกแบ่ง ๘ ได้ประเภทตามลักษณะของการกระทำผิด ซึ่งประเภทของอาชญากรรมอิเล็กทรอนิกส์และตัวอย่างการกระทำผิดมีดังต่อไปนี้
- การเข้าถึงระบบและข้อมูลโดยมิได้รับอนุญาต
- การเจาะระบบ (hacking)
- การเดารหัสผ่านแบบถึก (Brute force)
- การเดารหัสผ่านด้วยดิกชั่นนารี (Dictionary Attack)
- การชนกันของแฮช (Hash collision)
- การสแกนพอร์ต (Port scanning)
- การปลอมแปลงระบบหรือข้อมูลและการสวมรอยเป็นบุคคลอื่น
- การปลอมอีเมล์ (Email spoofing)
- การปลอมแมคและไอพี (Mac and IP spoofing)
- การสวมรอยเป็นบุคคลอื่น (Impersonation)
- การขโมยข้อมูล
- การดักฟังข้อมูล (sniffing)
- การปลอมตัวเพื่อขโมยข้อมูล (social engineering)
- ฟิชชิง และ วิชชิ่ง (phishing and vishing)
- การคุ้ยขยะ (Dumpster diving)
- การทำลายระบบหรือก่อกวนให้ระบบไม่สามารถให้บริการได้ตามปกติ
- การปฏิเสธการให้บริการ (Denial of Service - DoS)
- มัลแวร์ (Malware)
- ไวรัส หนอนอินเทอร์เน็ต ม้าโทรจัน ระเบิดเวลา
- บ็อตเน็ต (Botnet)
- การส่งสแปม โฆษณาชวนเชื่อ และอีเมล์หลอกลวงต่างๆ
- สแปมเมล์ (Spam mail)
- ข่าวหลอกหลวง (Hoax)
- สปายแวร์ และ แอดแวร์ (Spyware and Adware)
- การเผยแพร่เนื้อหาที่ไม่เหมาะสม
- การเผยแพร่ข้อความหมิ่นประมาท
- การเผยภาพอนาจาร
- การพนันออนไลน์
- การละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
- การสะกดรอยทางไซเบอร์ (Cyber stalking)
- การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลทำธุรกรรมแทน
- การก่อการร้าย
- การก่อการร้าย (Cyber terrorists)