Sunday, August 16, 2009

เที่ยวชม ปราสาทชูริ

ปราสาทชูริ หรือ Shuri Castle หรือคนที่นี่เรียก ชูริโจ เป็นปราสาทของที่สวยงามและขึ้นชื่อของที่นี่ ถ้ามาที่นี่แล้วไม่ได้มาปราสาทนี้ถึงว่าน่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง

วันที่ 16 สิงหาคม 2552 - ปราสาทชูริ จัสโก้ และแมกก้าบังโก

วันนี้ เป็นเช้าที่ฟ้าค่อนข้างสวยอีกวัน แต่วันนี้เมฆเยอะกว่าเมื่อวาน ก็หวั่นใจเล็กน้อยว่าฝนจะตก แต่ก็ไม่กลัว วันนี้วันอาทิตย์เลยหยิบเสื้อแมนยูตัวเก่งสีแดงข้างหลังติดเบอร์ 10 Rooney พร้อมด้วยกางเกงสีเขียวขี้ม้าเข้มกระเป๋ารอบกางเกง อิอิ กระเป๋าคาดเอวคาดไว้ด้านหลังในนั้นมีเศษเหรียญและพาสปอร์ต วันนี้จะออกรบพร้อมด้วยอาวุธคู่กายเพียงชุดเดียว นั่นก็คือกล้อง D80 และเลนส์ 17-50 F2.8 แต่มีออปชั่นพิเศษคือฟิลเตอร์ CPL ที่จะขาดไม่ได้เลยในวันที่ฟ้าใสแบบนี้

8.30 น. เป็นเวลาที่กลุ่มเรานัดกันที่ Front ของหอ ซึ่งแน่นอนครับ ว่าผู้ร่วมอุดมการณ์ในครั้งนี้ประกอบด้วย พี่บิ๊ก พี่น้อง พี่อุ และผม เช่นเคย 4 คนไทย ที่จะต้องเผชิญชะตาชีวิตแบบเดียวกันในโอกินาว่า แต่พี่บิ๊กกับพี่น้องก็จะกลับเมืองไทยก่อนแล้ว แล้วหลังจากนัดกันเราก็ไปทานอาหารเช้าที่ Dining Hall เช่นเคย ประหยัด ฮ่าๆๆ จากนั้น 9.00 น. รถแท๊กซี่มาจอดรอรับอยู่หน้าหอพัก ใช้เวลาประมาณสิบนาทีก็ถึงปราสาทชูริ พอมาถึงพี่น้องก็เข้าไปหยิบแผ่นประทับตราแสตมป์มาให้สองชุดให้ผมกับพี่อุคน ละชุด เพื่อที่จะไปตระเวณหาสถานที่ต่างๆในบริเวณรอบๆปราสาท แดดแรงมากพอควรแต่ก้สลับกับบางช่วงที่มีเมฆเหมือนกัน พอผ่านประตูแรกเข้ามาก็จะเห็นเป็นเหมือนกำแพงหินขนาดใหญ่รอบๆปราสาทมีบันได ขึ้น เข้าออกตามประตูต่างๆ รอบๆกำแพงเมือง จากนั้นพอเข้าไปถึงข้างในได้ ก็ต้องจ่ายเงิน 800 เยน เพื่อเข้าไปชมความงามภายในปราสาท (ไปเดินตากแอร์) ข้างนอกแดดแรงมากกก ร้อนมาก เดินเพียงชั่วเคี้ยวหมากแหลกก็เหงื่อท่วมเลยอ่ะครับ ร้อนจริงๆ ก็เลยไปตากแอร์ ลืมบอกไปว่าช่วงที่เดินดูตามบริเวณต่างๆ รอบๆปราสาทนั้นก็เก็บแสตมป์ไปด้วย อิอิ ได้ครบด้วย โดยที่มีเพียงผมกับพี่อุเท่านั้นที่เข้าไปข้างใน แต่พี่บิ๊กกับพี่น้องรออยู่ทีศูนย์อาหาร จากนั้นเมื่อผมกับพี่อุเดินครบทุกจุดแล้วก็ตามไปสมทบกับพี่บิ๊กและพี่น้อง ที่รออยู่ ตอนนั้นก็ประมาณ 11.00 น.แล้ว ก็ไปต่อกันที่จัสโก้ ไปหาอาหารเที่ยงทานกัน ก็เดินทางโดยรถเมล์ต่อรถไฟฟ้า ในที่สุดก็ได้ขึ้นรถไฟฟ้าแล้ว ซึ่งสถานีแอบไกลเหมือนกันจากที่พัก อาหารเที่ยงวันนี้ก็ซัดข้าวคัทสึด้งและทาโกะยากิ ฮ่าๆๆ จะลดความอ้วน จะไหวไหมเนี่ย ซัดซะเต็มคราบเลย หลังจากทานเสร็จก็ไปเดินเล่นอยู่ในจัสโก้อยู่จนประมาณ 14.30 น.ก็ออกเดินไปแมงก้าโซโก้ ใช้เวลาเดินประมาณ 15 นาที่ก็ถึงแล้ว ห้างนี้เป็นห้างที่ขายพวกโมเดล เสื้อผ้ามือสอง เกมส์ ฯลฯ เข้าทางเลยครับ ก็เลยไปดูของฝากให้เพื่อนรักที่ให้มันเฝ้าบ้านให้ช่วงที่ผมไม่อยู่ แต่ผมก็หาของให้มันไม่ได้ แอบเสียใจเล็กน้อย แต่ไม่เป็นไร เพราะยังไงผมก็ยังอยู่อีกนานอยู่ ฮ่าๆๆ กลัวเหมือนกัน กลัวว่าจะซื้อของเล่นมาเต็มห้อง แล้วตอนขนกลับเมืองไทยจะลำบากเอา ฮ่าๆๆ กลัวแค่นี้แหล่ะครับ เอิ๊กๆ เดินจน 15.30 น.ก็ไปขึ้นรถไฟฟ้ากลับที่พัก แล้วก็ลองเดินกลับจากสถานีรถไฟฟ้ากลับที่พักด้วย ได้สักสองเหนื่อยเลยแหล่ะครับ ซึ่งขากลับผมก็แวะซุปเปอร์มาร์เก็ต แล้วก็ซื้อข้าวปั้น เอาไว้กินเป็นอาหารเย็นวันนี้ด้วย พอกลับถึงหอก็ออนไลน์แล้วก็อัพรูปของเมื่อวานนี้และวันนี้เรียบร้อยหมดแล้ว รอชุดใหม่ ฮ่าๆๆ คงจะนอนแล้วหล่ะครับ เพราะพรุ่งนี้ต้องเริ่มเรียนแล้ว ตื่นเต้นจัง เพราะเรียนครั้งนี้เรียนนานที่สุด เหมือนมาเรียนต่อต่างประเทศเลย ก็จะลองดู ว่าจะทำได้ดีแค่ไหน สู้ๆ ฝันดีนะครับ

ดูรูปที่ http://foh9.multiply.com/photos/album/82

4 comments:

r s said...

"เดินเพียงชั่วเคี้ยวหมากแหลกก็เหงื่อท่วมเลยอ่ะ"

โห ใช้ศัพท์ ได้ สมัยท่านขุนมาก "ชั่วเคี้ยวหมากแหลก"

บ่งบอกอายุ คนเขียน น่ะเนี้ย นะเนี้ย

r s said...

หนาย หนาย เอา สแตมป์ มาโชว์โหน่ย

r s said...

สู้ๆๆ ครับ

Waanmeemi ^_^ said...

พี่โน้ตเขียนสนุกดี เล่าได้เห็นภาพมากๆ
เรื่องเรียนไงก็สู้ๆนะคะ :)